เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เวลา 10.30 น.ร.ต.อ.กัน หวานอารมย์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คันรวด และมีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสาย 226 สุรินทร์-ศีขรภูมิ บริเวณแยกจารพัต ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยจุดศีขรภูมิ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากป้อมตำรวจทางหลวงจุดตำบลจารพัต ประมาณ 20 เมตร พบรถเก๋งมิตซูบิซิ รุ่นมิราจ สีดำ ทะเบียน กง-9753 ศรีสะเกษ จอดอยู่กลางถนนหันหน้าไปทาง อ.ศีขรภูมิ ด้านหน้ารถพังเสียหายยับเยินถุงนิรภัยภายในรถทำงาน คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บและขอไม่เปิดเผยซื่อ บอกเพียงชื่อเล่นคือ แพรว อายุ 22 ปี เป็นชาวตำบลหนองเทพ อำเภอโนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ห่างออกไปกลางสี่แยก พบรถปิกอัพ โตโยต้าตอนเดียว สีดำ ทะเบียน น-5413 สุรินทร์ ด้านหน้าพังผากระโปรงเปิดหักงอและกระจกหน้ารถแตกทั้งบาน ไม่ทราบชื่อคนขับ เป็นชาวบ้านตำบลจารพัต มีอาการจุกที่หน้าอกถูกนำส่งโรงพยาบาลศีขรภูมิไปก่อนหน้านั้นแล้ว ข้างๆกันพบรถอีซูซุดีแม็กซ์แค็บ สีบรอนซ์ ทะเบียน 2 ฒฒ 1975 กทม ด้านหน้ารถพังเสียหายถุงลมนิรภัยทำงานทั้ง 2 ตัว มี น.ส.ณัฐชา ดีประสิทธิ์ เป็นพนักงานขายของบริษัทโอสถสภา พักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณศีรษะ โดยรถทั้ง 2 คัน หันหน้าไปทางอำเภอเมืองสุรินทร์ ขณะที่จนท.ทางหลวง ,จนท.สภ.ศีขรภูมิ และหน่วยกู้ภัย ได้ช่วยกันอำนวยความสะดวกการจราจรเพื่อให้รถสามารถวิ่งสัญจรไป มา ได้ และป้องกันเหตุซ้ำซ้อนเพราะเหตุเกิดบนถนนสายหลัก ที่มีรถวิ่งสัญจรกันเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามน.ส.ณัฐชา ดีประสิทธิ์ บอกว่า ตนเองขับรถมาจากอำเภอศีขรภูมิ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสุรินทร์ พอมาถึงสี่แยกเห็นรถ กระบะพุ่งเข้ามาหารถของตน ตอนนั้นตกใจมาก ไม่รู้ว่ารถพุ่งเข้ามาหาได้อย่างไร ดูเหมือนว่ารถทั้งสองคันจะชนกันก่อนแล้วจึงพุ่งมาชนกับรถของตน โชคดีที่ขับมาไม่ไวมากนัก ไม่อย่างนั้นคงเจ็บมากกว่านี้
ขณะที่คนขับรถเก๋งมิตซูบิซิ รุ่นมิราจ สีดำ เปิดเผยว่า ตนขับรถมาจากตัวเมืองสุรินทร์ พอมาถึงที่เกิดเหตุเหมือนหน้ามืดมองไม่เห็นอะไร รู้ตัวอีกทีก็ชนกันแล้ว มากันสองคนกับป้า และตนจำเหตุการณ์ตอนชนไม่ได้เลย
ทั้งนี้พบว่ากล้องหน้ารถของน.ส.ณัฐชา สามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้ โดยพบว่ารถปิกอัพ โตโยต้าตอนเดียว สีดำ ทะเบียน น-5413 สุรินทร์ เหมือนถูกชนจากด้านหลังก่อนที่จะพุ่งมาชนรถของ น.ส.ณัฐชา
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้เรียกผู้ขับขี่ทั้งสามคันมาสอบสวนถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
