ผู้ต้องหาคดีเผาศูนย์ฮอนด้าปัตตานีมอบตัว ยันบริสุทธิ์! เตรียมออกหมายจับเพิ่มแกนนำสั่งการ (ชมคลิป)

เมื่อเวลา 14.00น. วันที่ 7 ตุลาคม 2562 ที่ที่ว่าการอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี พ.อ.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง รอง ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหนองจิก พอ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 ร่วมกันรับมอบตัวนายมูฮัมมะรอมือลี หะยีสะมะแอ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญาคดีความมั่นคง ในกรณีคนร้ายลอบวางเพลิงโรงจอดรถของบริษัทปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์จำกัด ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้รถยนต์ที่จอดบริเวณโรงจอดรถยนต์ได้รับความเสียหาย 15 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คันได้รับความเสียหาย เหตุเกิดวันที่ 22 สิงหาตม 2555 ซึ่งผู้ต้องหาต้องการแสดงความบริสุทธิ์และขอเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน

พ.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากการขยายผลจากการซักถามนายไซมิง ดาราแม ที่ถูกควบคุมมาก่อนหน้านี้ ได้ซัดทอดผู้ร่วมก่อเหตุและสามารถควบคุมตัวนายมะหะมะยะกี กะลุแป ได้ในพื้นที่ ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จากการนำตัวเข้ายังศูนย์ซักถามนายมะหะมะยะกีรับสารภาพ และซัดทอดไปยังผู้ร่วมก่อเหตุอีก 4 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง จ.ปัตตานี รวบรวมหลักฐานเพื่อหมายจับต่อศาลจังหวัดปัตตานี 5 หมายประกอบด้วย 1.นายมะหะมะยะกี กะลุแป หมาย ป.วิอาญา ที่ 513/62 ลง 4 ต.ค.62 2.นายมูหาหมัดอามีน ดือราแม หรือ ปะจู หมาย ป.วิอาญาที่ 514/62 ลง 4 ต.ค.62 3.นายมูฮัมมะรอมือลี หะยีสะมะแอ หรือโต๊ะยี หมาย ป.วิอาญาที่ 515/62 ลง 4 ต.ค.62 4.นายซะการียา สะมะแอ หรือแบโซะ หมาย
ป.วิอาญาที่ 516/62 ลง 4 ต.ค.62 และ 5.นายเจะบาเฮง หะยีลาเตะ หรือแบเฮงหมาย ป.วิอาญาที่ 517/62 ลง 4 ต.ค.62

“เมื่อวันที่ 4 ตลุาคมที่ผ่านมา หลังออกหมายจับทั้ง 5 รายเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการณ์ร่วมสามารถควบคุมตัวนายเจะบาเฮง หะยีลาเตะและนายซะการียา สะมะแอ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่บ้านปะการือสง หมู่ 6 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และควบคุมตัวตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกส่งหน่วยซักถามหน่วยข่าวกรองทางทหารส่วนหน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ส่วนนายมูหาหมัดอามีน ถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่าการก่อเหตุลอบวางเพลิงครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ นายมะนาเซ โซร์ดี ซึ่งเป็นแกนนำระดับสั่งการหลังถูกซัดทอดจากผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว” พ.อ.ขจรศักดิ์กล่าว

สำหรับนายมูฮัมมะรอมือลี หะยีสะมะแอ ขณะนี้ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่ จ.นราธิวาส และทำงานค้าขายตามปกติ โดยยืนยันแสดงตนเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ และขอพึ่งกระบวนการยุติธรรมสู้คดีต่อไป

Advertisement

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image