เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ความคืบหน้ากรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้นและผู้ประกอบการรับซื้อยาเส้น อ.หล่มสัก และ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์กว่า 2,000 คน ชุมนุมรอฟังผลการเจรจาระหว่าง นายอธิบดี วัฒนกุล รองอธิบดีกรมสรรถสามิต กับตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้นและตัวแทนผู้ประกอบการรับซื้อยาเส้น ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยผู้ชุมนุมยื่นข้อเรียกร้องให้กรมสรรพสามิต แก้ปัญหาผลกระทบจากการขึ้นภาษียาเส้น ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ขาดศักยภาพไม่สามารถรับซื้อยาเส้นได้ทั้งหมด กระทั่งเกษตรกรหวั่นวิตกเกรงเพาะปลูกยาเส้นแล้ว ไม่มีผู้รับซื้อ มีผลกระทบต่อรายได้ของครอบครัว โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานสรรภสามิตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมท่ามกลางบรรยากาศเคร่งเครียด
กระทั่งได้ข้อสรุปว่า เรียกร้องให้กรมสรรพสามิตแก้ไขภาษียาเส้นจากเดิม 0.10 บาทต่อกรัมเป็น 0.025 บาทต่อกรัม โดยไม่มีเงื่อนไขปริมาณการผลิตและจำหน่าย หากมีการปรับขึ้นภาษีในอนาคตขอให้แจ้งล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป หากไปรับการแก้ไขภาษีดังกล่าวแล้ว ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาเส้นยืนยันจะรับซื้อยาเส้นทุกประเภทจากผู้เพาะปลูกยาเส้นด้ายตามเดิม จากนั้นที่ประชุมร่างบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, รัฐฒนตรีช่วยฯ และอธิบดีกรมสรรพสามิต
สำหรับบันทึกข้อตกลงดังกล่าว นายยุพราช บัวอินทร์ แกนนำผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ รมว.มีคำตอบยืนยันจะแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้อง และรับปากจะนำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า “ตอนนี้เกษตรกรไม่มีใครเชื่ออธิบดีกรมสรรพสามิต ” ทำให้รองอธิบดี และ นายสืบศักดิ์ไม่ลงนามในบันทึกข้อเรียกร้อ ก่อนมีการเจรจาโดยให้เจ้าหน้าที่ส่งบันทึกโทรสารไปยังผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ
ต่อมา เวลา 14.45น. นายสืบศักดิ์แจ้งว่า ได้ส่งบันทึกถึงมือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจแล้ว อำนาจทางจังหวัดมีเพียงแค่นี้ ส่วนการที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักชุมนุมต่อไปก็พร้อมเปิดห้องน้ำอำนวยความสะดวกให้ แต่อยากให้ผู้ชุมนุมกลับไปรอฟังคำตอบที่บ้านพักจะสะดวกกว่า ขณะที่นายยุพราช แจ้งว่าจำเป็นต้องรอคำตอบจากรมว.คลัง เพื่อไปชี้แจงกับเกษตรกรที่ชุมนุม หากต้องปักหลักชุมนุมเพื่อรอคำตอบรมว.คลังกันต่อ ถึงต้องค้างคืนก็จำเป็น
กระทั่งล่าสุดเวลา 15.20น. ผู้ชุมนุมยังปักหลักรอคำตอบบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด โดยมีผู้แทนเกษตรกรผลัดเปลี่ยนกันอภิปรายโจมตีกรมสรรพสามิตอย่างดุเดือด บางรายขับไล่รัฐบาล เนื่องจากแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น ไม่เฉพาะที่ จ.เพชรบูรณ์ได้รับความเดือดร้อน แต่ยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้นทั้งประเทศ เป็นการทำลายอาชีพการปลูกยาเส้นซึ่งเป็นวิถีชีวิตคนเพชรบูรณ์ และกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย
