เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดพังงาตัดสินคดีรุมโทรมเด็กหญิงบ้านเกาะแรด โดยมีจำเลยคือ นายวรชิต คงบุตร หรืออิฉา จำเลยที่ 1 นายชาติชาย ศรีรัตน์ หรือเล็ก จำเลยที่ 2 นายบุญพจน์ นนทรี หรืออาหลี จำเลยที่ 3 นายเฉลิม สามีน หรือหว๋าบำ จำเลยที่ 4 นายสุชีพ สุเมน หรือบังเดช จำเลยที่ 5 นายธวัชชัย เถาว์กู หรือยูนุส จำเลยที่ 6 นายณัฐวุฒิ บุตรน้อย หรือกาหลีม จำเลยที่ 7 นายกีรติ สุเมน หรืออาหมาด จำเลยที่ 8 นายสายัณห์ สุเมน หรือย้อย จำเลยที่ 9 นายรังสันต์ ชายเลี้ยง หรือฮาสัน จำเลยที่ 10 และนายนาวิก จารึก หรือหลี จำเลยที่ 11 ถูกมารดา และเด็กหญิงอายุ 14 ปี บ้านเกาะแรด ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา กล่าวหาว่าร่วมกันกับเพื่อนบ้านอีกกว่า 40 คน รุมข่มขืนกระทำชำเรา
โดยเฉพาะจำเลยที่ 1 ซึ่งมีการข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงผู้เสียหายจำนวน 16 ครั้ง จำเลยที่ 2 จำนวน 9 ครั้ง และจำเลยที่ 3 จำนวน 7 ครั้ง ลงโทษจำเลยทั้ง 11 คน ในข้อหาร่วมกันรุมโทรมข่มขืนกระทำชำเรา หญิงสาวอายุไม่เกิน 15 ปี ที่มิใช่ภรรยาของตน และข้อหาบุกรุกเคหสถานในยามค่ำคืน รวมถึงข้อหาอื่นๆ พิพากษาตัดสินจำคุกจำเลยที่ 1-7 ตลอดชีวิต นายกีรติ จำเลยที่ 8 จำคุก 45 ปี ส่วนนายสายัณห์ จำเลยที่ 9 และนายนาวิก จำเลยที่ 11 ลงโทษจำคุกคนละ 15 ปี นายรังสันต์ จำเลยที่ 10 ลงโทษจำคุก 20 ปี 4 เดือน กับทั้งให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ฝ่ายเด็กหญิงและมารดาด้วย ขณะที่ศาลมีคำสั่งให้จำเลย 11 คนชดใช้ค่าเสียหายร่วมกันประมาณ 6 ล้านบาท โดยทางจำเลยได้ขออุทธรณ์การพิจารณาคดีต่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 จากนั้นได้นัดไต่สวน
ล่าสุด นายสรรเพชร ทิพมนเทียน ทนายความจิตอาสา พร้อมด้วยจำเลยและญาติในคดีดังกล่าวเดินทางเข้ารับฟังการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ซึ่งจะอ่านคำพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดพังงา โดยนัดอ่านผลการพิจารณาคดีดังกล่าวในเวลา 09.00 น. ของวันนี้ (8 ต.ค.62) ท่ามกลางญาติๆ และชาวบ้านของจำเลยทั้ง 11 คน เบื้องต้นทราบว่า นายสุชีพ สุเมน หรือบังเดช จำเลยที่ 5 ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ก.ย.62 เวลา 06.00 น. สาเหตุระบุเป็นลมเสียชีวิต โดยทางนายสรรเพชรเผยความมั่นใจว่า เท่าที่นัดสืบพยานหลักฐานเพิ่มเติมนั้น ตนเองไม่หนักใจมาก เนื่องจากมีแต่คำให้การขอ พยานทางเด็กหญิงที่เป็นโจทก์ร่วมเพียงอย่างเดียว ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ผลออกมาไม่มีความชัดเจนว่าจำเลยทั้งหมดกระทำร่วมกัน
“สำหรับผลการตัดสินของศาลอุทธรณ์ครั้งนี้ ฝ่ายทนายจำเลยยังคงเชื่อว่ามีจำเลยบางรายอาจจะถูกยกฟ้อง หรือลดโทษลงบ้าง เนื่องจากความชัดเจนของคดียังอยู่ที่คำให้การของพยานที่ถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว ส่วนหลักฐานอย่างอื่นตนเองไม่พบว่าสามารถยืนยันได้ว่าจำเลยทั้งหมดจะกระทำผิดร่วมกัน จะมีจำเลยบางรายเท่านั้นที่อาจจะถูกตัดสินตามความผิดที่กระทำไป”
