ความคืบหน้ากรณีพ่อของสามเณรนัท นามสมมุติ อายุ 13 ปี พาสามเณรเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ว่าลูกชายของตนถูกพระครูสังฆรักษ์วินัย อินทวินโย เจ้าอาวาสวัดอินทาราม หรือวัดหนองขาว กักขังตัวไว้ในกุฏิ พร้อมบังคับให้สามเณรบีบนวดและอมอวัยวะเพศจนสำเร็จความใคร่นานนับเดือน หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวสามเณรไปสอบถามข้อมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี
ขณะที่ทางเจ้าคณะอำเภอท่าม่วงได้ลงพื้นที่วัดอินทาราม พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสงฆ์ขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ แต่ปรากฏว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าอาวาสวัดอินทารามกลับไม่อยู่ที่วัดตามที่คณะกรรมการสงฆ์ได้นัดสอบข้อมูลไว้ เมื่อสอบถามพระลูกวัดและลูกศิษย์ภายในวัดได้ให้ข้อมูลว่า ทางเจ้าอาวาสเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงเช้านั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.20 น.วันที่ 16 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาว ได้นำหมายจับไปเชิญตัวพระครูสังฆรักษ์วินัย อินทวินโย เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ขณะกำลังนอนพักรักษาจากอาการป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จากนั้นได้นำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.หนองขาว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนจะนำตัวไปลาสิกขาที่วัดใหญ่ดงรัง (วัดส้มใหญ่) ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง แต่ทางพระครูวิสิฐกาญจนกิจ เจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาสวัดใหญ่ดงรัง แจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการสึกได้ เนื่องจากเป็นชาวหนองขาวด้วยกัน จึงต้องนำตัวเจ้าอาวาสวัดอินทารามไปยังวัดวังขนายทายิการาม ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง
แต่เจ้าอาวาสวัดอินทารามดื้อแพ่งไม่ยอมกล่าวคำลาสิกขาบท ขณะที่ทางพระครูกาญจนสุตาคม เจ้าอาวาสวัดวังขนายทายิการาม และเป็นเจ้าคณะอำเภอ ได้แจ้งว่าเมื่อมีหมายศาลออกมาแล้วอย่างไรก็ต้องสึก แต่เมื่อไม่ยอมกล่าวคำลาสิกขา ทางเจ้าอาวาสวัดวังขนายทายิการามจึงได้ไปนำผ้าขาวมาให้ห่ม หลังจากเปลี่ยนผ้าเหลืองมาเป็นผ้าขาวแล้ว อดีตเจ้าอาวาสได้เดินออกจากห้องและไม่ยอมกราบลาเจ้าอาวาสวัดวังขนายทายิการามแต่อย่างใด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถออกไปพร้อมกับทางน้องสาวที่ติดตามไปด้วยทันที
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากมีมารดารวมทั้งบรรดาญาติๆ หลายสิบคนของอดีตเจ้าอาวาสวัดอินทารามได้มารอคัดค้านการลาสิกขาในครั้งนี้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสงฆ์ โดยมารดาและญาติพี่น้องถึงกับปล่อยโฮพร้อมพูดว่า “ความดีเขาก็มีเยอะทำไมไม่ยอมฟังกันบ้าง หลักฐานการสอบก็ยังไม่มีจากคณะที่จัดตั้งกันมาเลย”
อย่างไรก็ตาม หลังจากอดีตเจ้าอาวาสได้นุ่งขาวห่มขาว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวกลับไปสอบสวนต่อที่ สภ.หนองขาว โดยมีกองทัพสื่อมวลชนติดตามไปทำข่าวเป็นจำนวนมาก
สำหรับคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานทั้งหมดรวม 4 ปาก โดยเบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับอดีตเจ้าอาวาสในความผิดฐานกระทำชำเราและอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี
ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
