เมื่อวันที่ 16 ต.ค.62 เวลา 19.30 น. ร.ต.อ.สุเมธ สุขศรัทธา รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเพลิงไหม้ ที่วัดพิหารแดง ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.ท.เรวัฎ นูมหันต์ รอง ผกก.ฯ จนท.ตำรวจชุดสืบสวนฯ และ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง รถดับเพลิง กว่า 10 คัน จาก เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี อบต.พิหารแดง อบต.รั้วใหญ่ อบจ.สุพรรณบุรี นับ 10 คัน พร้อมด้วย จนท.กู้ภัยสมาคมเณรแก้วสุพรรณบุรี จนท.กู้ภัย มูลนิธิเสมอกันสุพรรณบุรี และชาวบ้าน พระลูกวัด เร่งเข้าช่วยดับเพลิง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
นายสังวน ชมสุข รอง นายกอบต.พิหารแดง เล่าว่า หลังจากตนได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดว่าที่วัดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตนและชาวบ้าน พร้อมด้วยพระลูกวัด ก็ได้เร่งเข้ามาช่วยดับไฟ โดยพยายามใช้สายยางฉีดน้ำประปาสกัดเพลิงไว้เบื้องต้น แต่ก็ไม่ทัน เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนลามไปหลังต่อไป เมื่อ จนท.ดับเพลิงมาถึง ก็ได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงและสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ สำหรับวัดพิหารแดงนั้น เป็นวัดเก่าแก่ กว่า 100 ปี กุฏิหลังแรก ก็เป็นหลังเก่า เป็นไม้สัก ทั้งหลัง มีอายุนานแล้ว ตั้งแต่สมัยเจ้าอาวาส องค์เดิม นับว่ามีอายุนับ 100 ปี เช่นกัน ก็รู้สึกเสียใจ ที่มาเกิดเหตุเพลิงไหม้ ในครั้งนี้
ด้าน พระสมุอภิรัฐ ภูลิญาโน เจ้าอาวาสวัดพิหารแดง ได้กล่าวว่า สำหรับที่วัด มีกฎิอยู่ 6 หลัง กุฏิหลังแรกที่ถูกไฟไหม้ เป็นกุฏิเก่าแก่ มีอายุนับร้อยปี เป็นกุฏิไม้สัก ไม่มีพระอยู่ที่หลังนี้ ส่วนหลังอื่นมีพระอยู่ ตอนเกิดเหตุ ได้เห็นควันไฟพวยพุ่งออกมา ก็รีบออกมาจากกุฏิ เพื่อมาช่วยกันดับไฟ ส่วนสาเหตุ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่ด้วยความเก่าแก่ของกุฏิหลังแรก อาจเกิดจากสายไฟที่เก่า ชำรุด จึงสันนิษฐานว่า อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร เบื้องต้นมูลค่าความเสียหาย มี กุฏิ เก่าไม้สัก 1 หลัง และ กุฎิพระของวัด อีก 2 หลัง เป็น 2 ชั้น ชั้นบนเป็นไม้สัก ถูกไฟไหม้ วอด ประเมินความเสียหายเบื้องต้น มูลค่านับล้านบาท อย่างไรก็ดี ต้องให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบถึงสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้เปิดเผยว่า สำหรับการเกิดไฟไหม้กุฏิพระ วัดพิหารแดงครั้งนี้ ขณะนี้ได้สั่งการให้จนท.ชุดสืบสวน จนท.พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อทำการเก็บหลักฐาน ทั้งหมด ในบริเวณจุดเกิดเหตุ และกันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัด ต้องรอ จนท.ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
