เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ภัยแล้ง แม่น้ำโขงไหลผ่านจังหวัดเลย เริ่มส่อเค้าวิกฤติทวีความรุนแรง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำโขง ได้ส่งผลกระทบที่จำเป็นต้องใช้น้ำ เพื่อนำมาใช้ในการเกษตร พบแม่น้ำโขงลดลงและแห้งเร็วคืนเดียว แห้งจนเห็นหาดทรายยาวกว่า 1 กิโลเมตร น้ำโขงได้เริ่มตั้งแต่อำเภอเชียงคาน ถึงอำเภอปากชม น้ำโขงแห้งจนเห็นสันดอนทรายเป็นทางยาว และเกาะแก่งกลางน้ำโขง แก่งคุดคู้ โผล่ขึ้นให้เห็นโขดหินชัดเจน น้ำโขงบางช่วงแห้งจนเดินข้ามไปฝั่ง สปป.ลาวได้
นายอดุลย์ ผลคำ ผู้ใหญ่บ้านน้อย หมู่ที่ 4 ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย เผยว่า เมื่อวานช่วงแก่งคูดคู้ยังมีน้ำให้เห็น ปลายๆบันไดขั้นสุดท้ายลงน้ำโขง พอเช้าวันนี้น้ำโขงถือว่าผันผวนผิดธรรมชาติอย่างมากที่สุด เช้ามาดูน้ำตรงแก่งคูดคู้ได้ลดฮวบแห้งขอด จนเห็นสันดอนทรายเป็นทางยาวเป็นกิโล แก่งคุดคู้โผล่ให้เห็นเต็มตา การที่น้ำโขงแห้งช่วงเดือนตุลาคม ถือว่าแห้งวิกฤติมากปกติช่วงเดือนตุลาในช่วง 2 ถึง 3 ปี ที่ผ่านมาแม้ว่าเขื่อนประเทศจีนจะปิด แต่จะมีน้ำโขงไหลมาอยู่และไม่ถึงกับแห้งแบบนี้ ที่บอกว่าวิกฤตินั้นแม่น้ำสาขาต่างๆที่ไหลลงน้ำโขง ต้องแห้งตาม อย่างน้ำเหือง น้ำเลย พอน้ำสาขาต่างๆแห้งก็ไม่มีน้ำไหลลงแม่น้ำโขง ไม่รู้ว่าถึงฤดูแล้งจริงๆช่วงมีนา เมษา น้ำโขงจะเป็นอย่างไร วันนี้น้ำโขงได้แห้งสนิทจริงๆ ยิ่งช่วงผาจอมนาง บ้านห้วยซวก ต.บุฮม อ.เชียงคาน เขตรอยต่อบ้านหาดเบี้ย เขต อ.ปากชม น้ำโขงได้แห้งสนิท เรือผ่านไม่ได้ เห็นหาดทรายสามารถเดินข้ามไป สปป.ลาว อีกฝั่งได้เลย
ส่วนที่ศูนย์สำรวจอุทกวิทยา ที่ 8 เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย เจ้าหน้าที่สำรวจอุทกวิทยาที่ 8 เชียงคาน ได้เผยว่า สถานการณ์น้ำโขงในจุดอำเภอเชียงคาน ระดับแม่น้ำโขงเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 62 ระดับน้ำโขงอยู่ที่ 5.82 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 0.82 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 10.18 เมตร ส่วนวันที่ 21 ตุลาคม 62 ระดับน้ำโขง 5.38 เมตร ระดับน้ำลดลง 0.44 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 10.62 เมตร ถือว่าน้ำได้ลดลงอย่างรวดเร็ว
