เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ยางนาขยายใหญ่อายุ100 กว่าปี ถูกโค่นล้ม แปรรูปเป็นท่อนๆ ภายในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ (สล.5) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง คาดว่าจะมีผู้ฉวยโอกาส โครงการขยายเขตไฟฟ้า เลือกตัดไม้หวงห้าม แทนการ ริดกิ่ง ใต้แนวเสาไฟฟ้า ทางเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตรวจสอบ
วันที่ 25 ตุลาคม 62 นายคำผัน โมกไธสง ปลัดอาวุโสอำเภอเนินมะปราง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.5 (วังแดง) สนธิกำลังออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หลังจากมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่ามีการแอบลักลอบตัดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จุดเกิดเหตุอยู่ภายในเขตอุทยานฯ พบต้นยางนาอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ปลูกเรียงรายไว้เป็นกลุ่มๆ อยู่ริมถนน บริเวณป่าวังแดง โดยคนร้ายได้เลือก โค่นต้นยางนา 1 ใน 3 ต้น ซึ่งเป็นต้นใหญ่สุด ซึ่งคาดว่า ต้นยางมีขนาดความกว้างไม่ต่ำกว่า 2 คนโอบ ล้มกองอยู่จำนวน 3 ท่อน และยังเหลือท่อนบนของยางนาอยู่เชิงเขาถูกใบไม้คลุมอยู่ ปริมาตร 9.18 ลบ.ม. โดยหน้าตัดของไม้ทุกท่อนไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้แต่อย่างใด
ขณะที่ชาวบ้านมาดูเหตุการณ์ไม้ยางนาล้ม ไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆหรือบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คาดว่า บุคคลที่ลักลอบตัดโค่นต้นยางขนาดใหญ่ น่าจะเป็นคนมีสีในพื้นที่ และยังทราบอีกว่า พื้นที่ดังกล่าว มีโครงการขยายเขตไฟฟ้า ภายในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ (สล.5) อช.ทุ่งแสลงหลวง จึงเลือกตัดไม้หวงห้าม คือ ต้นยางนา ขนาดใหญ่แทนการ ลิดรอนกิ่ง เนื่องจากระหว่างเส้นทางตามถนน พบว่า มีการโค่นต้นไม้ขนาดเล็ก และมีการลิดกิ่งเป็นปะปรายบริเวณใต้แนวเสาไฟฟ้า อีกด้วย
ทั้งนี้ในจุดเกิดเหตุไม่พบตัวผู้กระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางเอาไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ ก่อนทำสำนวนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เนินมะปราง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมจะติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีในข้อหาฐานทำไม้ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ และ ฐานห้ามผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังไม่ได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย และ ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ภายในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป
