ชาวเลราไวย์ร้อง’บิ๊กตู่’ถูกทำร้าย- จี้ถอนเอกสารสิทธิเอกชน หลังส่งชายฉกรรจ์ปะทะเดือด

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 100 คน ระบุว่าเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิครอบครองในพื้นที่เกิดปะทะกับกลุ่มชาวบ้านเลราไวย์ บริเวณหาด ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ภายหลังมีการนำรถแบ๊กโฮเข้าปรับปรุงพื้นที่ตรงที่ตั้งของชุมชนชาวราไวย์ เหตุปะทะทำให้ต่างฝ่ายมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าฯภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองร่วมกันลงพื้นที่เพื่อไประงับเหตุและพูดคุยหาทางออก และนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าฯภูเก็ตได้เชิญตัวแทนเจ้าของที่ดินและตัวแทนกลุ่มชาวเลราไวย์ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมด่วน โดยตัวแทนชาวเลราไวย์เรียกร้องให้บริษัทเอกชนยินยอมเปิดทางให้ใช้สัญจรเข้า-ออกในการลงทะเลเพื่อทำประมงและไปประกอบพิธีกรรม (บาลัย) แบบถาวร แต่ข้อเสนอไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องรอเจ้าของที่ดินตัวจริงเป็นผู้ตัดสินใจ โดย จ.ภูเก็ตนัดประชุมหารือในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

เมื่อวันที่ 28 มกราคม พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เปิดเผยว่า จากเหตุปะทะที่เกิดขึ้นมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความแล้วหลายราย ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลองเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง

นายชาตรี หมาดสตูล ผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัท บารอน เวิรลด์ เทรด จำกัด ให้ดำเนินการปรับปรุงที่ดินที่มีเนื้อที่ประมาณ 33 ไร่ เพื่อสร้างเป็นวิลล่าประมาณ 17-18 หลัง กล่าวว่า ที่ดินนี้มีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน ซื้อต่อกันมาเป็นทอดๆ ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ที่ผ่านมาพยายามเข้ามาปรับปรุงพื้นที่มาโดยตลอด แต่ทางกลุ่มชาวไทยใหม่บ้านราไวย์ไม่ยินยอม อ้างว่าเป็นเส้นทางเดินไปประกอบพิธีกรรม

เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่บ้านชาวไทยใหม่หาดราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตัวแทนชาวเลได้อ่านข้อเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เข้าช่วยเหลือเพื่อขอความเป็นธรรม ก่อนยื่นหนังสือให้กับนายจำนงค์ จิตรนิรัตน์ ที่ปรึกษาเครือข่ายองค์กรชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง เพื่อส่งต่อให้นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการ กสม.ต่อไป

Advertisement

นายจำนงค์กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กสม.ตกใจมาก ไม่คิดว่าในยุคนี้ซึ่งมีทหารปกครองจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่อีกหน่วยหนึ่งเข้าไปร่วมมือด้วย คิดว่าควรมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นกลางเข้ามาดูแล เบื้องต้นทาง กสม.จะส่งตัวแทนร่วมพูดคุยหาทางออกร่วมกับผู้ว่าฯภูเก็ตในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนเรื่องที่ดินพิพาทนั้นทราบเรื่องมาหลายปีแล้วแต่ไม่มีหน่วยงานใดดำเนินการให้แล้วเสร็จ จึงเกิดปัญหารุนแรง อยากเรียนไปยังรัฐบาลว่าที่นี่มีที่ดินพิพาท 2 แปลง แปลงแรกที่ชาวเลราไวย์อาศัยอยู่นี้ กสม.ทราบว่ามีคณะทำงานชุดของ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ตรวจสอบจนพบข้อพิรุธในการออกเอกสารสิทธิในทางมิชอบ น่าจะนำไปสู่การเพิกถอนได้ และมีหลักฐานจากกระดูกบรรพบุรุษชาวเลราไวย์ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพิกถอนจะสามารถยุติปัญหาได้ส่วนหนึ่ง

ขณะเดียวกัน นายสนิท แซ่ซั่ว ผู้ประสานงานชาวไทยใหม่ได้อ่านแถลงการณ์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สรุปตอนหนึ่งว่า “ชาวเลราไวย์อาศัยที่แห่งนี้มากว่า 200 ปี และต่อมาก็พบว่ามีผู้การนำที่ดินของชาวเลราไวย์ไปออกเอกสารสิทธิในปี 2515 โดยไม่มีใครรู้ และมีการออกเอกสารสิทธิทับที่อยู่อาศัย ที่ทำพิธีกรรม ที่จอดเรือ รวมทั้งที่นา ที่ประมง และสุสาน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 และ 27 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ออกโฉนดได้ส่งนักเลงมาทุบตีชาวเลราไวย์เพื่อปิดเส้นทางใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทั้งหมด โดยมีทหารและตำรวจมาอำนวยความสะดวก ทำให้มีชาวเลราไวย์บาดเจ็บมากกว่า 40 คน จึงขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งตรวจสอบดังนี้ 1.ตรวจสอบเอกสารสิทธิ คำนึงถึงที่อยู่อาศัยของชาวเลราไวย์ 2.ตรวจสอบกรณีมีการสั่งการให้มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ หรือนักเลงอันธพาลมาเป็นเครื่องมือทำร้ายชาวเลราไวย์ 3.เร่งรัดการเพิกถอนการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบตามข้อมูลการตรวจสอบของดีเอสไอ 4.ให้เยียวยารักษาผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียโอกาสทำมาหากินอย่างยุติธรรม”

ตัวแทนชาวเลราไวย์ยื่นหนังสือเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เข้าช่วยเหลือ
ตัวแทนชาวเลราไวย์ยื่นหนังสือเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เข้าช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังอ่านแถลงการณ์เสร็จตัวแทนชาวเลราไวย์ได้เดินทางไปยังธนาคารแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือแก่ผู้จัดการสาขาผ่านไปยังผู้บริหารใหญ่ของธนาคาร ที่มีรายชื่อเป็นผู้ถือครองที่ดินพิพาทดังกล่าวด้วย

Advertisement

รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วบริษัทบารอนฯได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 43 ช่วยจัดกำลังพลทหารมาดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับพนักงานก่อสร้างของบริษัทที่ว่ามาปรับปรุงพื้นที่ รวมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยอ้างเหตุผลว่า เกิดข้อพิพาทกับชาวเลราไวย์ไม่ยินยอมให้เข้าไปปรับปรุงพื้นที่

(แฟ้มภาพ) เหตุการณ์ชายฉกรรจ์ปะทะกับชาวเลราไวย์เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา
(แฟ้มภาพ) เหตุการณ์ชายฉกรรจ์ปะทะกับชาวเลราไวย์เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image