ชาวประจวบฯปลื้มถนนเลียบชายหาดโล่ง หลัง ตร.แจ้งหยุดตั้งเต็นท์ขายของปิดถนน

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ต.ต.เจษฎา กฤตานุสาร สารวัตรจราจร สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ตรวจสอบการร้องเรียนผู้ประกอบการตั้งเต็นท์สีชมพูขายสินค้าหน้าศูนย์การท่องเที่ยว ริมถนนเลียบชายหาด ด้านหน้าสะพานสราญวิถี ในช่วงเย็นวันศุกร์และวันเสาร์ แต่ไม่ได้วางเต็นท์ในเวลาที่กำหนดทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการใช้เส้นทางในแหล่งท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด ที่ผ่านมาพบว่าเต็นท์ดังกล่าวอยู่นอกเขตพื้นที่ที่เทศบาลยื่นขออนุญาตใช้ถนนสาธารณะตาม พ.ร.บ.จราจร ไม่เกี่ยวข้องกับตลาดคนเดินที่เทศบาลเป็นผู้บริหาร และมีปัญหาในข้อกฎหมายหลายประการ ล่าสุดได้แจ้งให้เจ้าของเต็นท์เช่ายุติการใช้ผิวการจราจรตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม เป็นต้นไป จนกว่าสำนักงานพัฒนาชุมชน (พช.) จังหวัด จะเสนอโครงการที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุญาตตั้งเต็นท์บนถนนให้ถูกต้อง หลังจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการร้านค้าประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ยืนยันว่า พช.จะต้องทำโครงการแยกออกจากถนนคนเดินของเทศบาล สำหรับหนังสือที่เทศบาลขออนุญาตปิดถนนฉบับใหม่ เจ้าหน้าที่จะอนุญาตเฉพาะพื้นที่ที่ประกาศปิดตลาดถนนคนเดิมในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น

นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา ประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด (กธจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากยุติการตั้งเต็นท์ความยาว 80 เมตร ทำให้ถนนโล่ง การจราจรได้รับความสะดวก ประชาชนและนักท่องเที่ยวพอใจเป็นอย่างมากเพราะสามารถใช้พื้นที่ลานอเนกประสงค์ด้านข้างสะพานสราญวิถีพักผ่อนหย่อนใจได้โดยสะดวก ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดควรเร่งรัดสอบข้อเท็จจริงที่มาของการตั้งตลาดดังกล่าวดำเนินการถูกต้องตามหลักการหรือไม่ เนื่องจากมีการร้องเรียนผ่าน กธ.จ. กรณีเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานและอดีตผู้บริหารองค์กรท้องถิ่นใช้อำนาจโดยไม่มีกฎหมายรองรับ นอกจากนั้นจังหวัดควรหาทางเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อนำสินค้าไปขายในจุดอื่นที่มีความเหมาะสม เช่น สวนเฉลิมพระเกียรติหน้าศาลากลางจังหวัดโดยไม่มีการจัดเก็บรายได้สูงกว่าตลาดถนนคนเดินที่เทศบาลเก็บค่าไฟฟ้า ค่าขยะเพียง 60 บาท

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (อ.พช.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัญหาการตั้งเต็นท์สีชมพูบนถนนเลียบชายหาด จะรอให้ผู้ตรวจเขตที่รับผิดชอบพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ส่วนกรณีที่ตลาดยังไม่สามารถเปิดได้ เป็นเรื่องการบริหารจัดการของหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่และผู้บริหารระดับจังหวัดจะพิจารณาตัดสินใจ หลังจากนางยุพิน เศรษฐศักดาศิริ พัฒนาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ชี้แจงว่า พช.อำเภอ ได้กำหนดให้เป็นเป็นตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารตลาดและร่วมกับทางเทศบาลเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ไม่มีสถานที่จำหน่ายสินค้า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการ 70 บูธ การขอใช้พื้นที่สำนักงาน พช.ขอใช้พื้นที่กับเทศบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องจากตลาดถนนคนเดิน มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารตลาดประชารัฐฯ สำหรับรายได้จากการเช่าเต็นท์จัดเก็บตามข้อตกลงของตลาดบูธละ 160 บาท นำส่งเทศบาล 90 บาท อีก 70 บาท คณะกรรมการบริหารตลาดจ่ายเป็นค่ายริหารจัดการเต็นท์

Advertisement

ด้านแหล่งข่าวจากฝ่ายปกครองจังหวัดระบุว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมือง ชี้แจงข้อเท็จจริงในการจัดเก็บรายได้จากตลาดประชารัฐเต็นท์สีชมพู ที่อยู่นอกเขตที่เทศบาลรับผิดชอบ หลังจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแจ้งว่ามีการเก็บค่าเต็นท์วันละ 160 บาท แบ่งให้เทศบาล 90 บาท อีก 70 บาทเป็นค่าบริหารจัดการ ประเด็นนี้เทศบาลใช้อำนาจตามกฎหมายใดเก็บรายได้ดังกล่าว และมีการจัดเก็บรายได้จริงหรือไม่ เนื่องจากการกำหนดราคาขายสินค้าถนนคนเดินบนถนนสายเดียวกันเทศบาลจัดเก็บเพียง 60 บาทต่อวัน ขณะที่มีบุคคลบางกลุ่มเข้ามาหาผลประโยชน์เก็บค่าเช่าเต็นท์ 160 บาทต่อวัน วันละ 70 บูธ มีรายได้เดือนละ 8 หมื่นกว่าบาท และทราบว่ามีการเชิญผู้ประกอบการ 70 รายไปลงทะเบียนเปิดตลาดประชารัฐเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา จากเดิมอ้างว่าเปิดเป็นตลาดชุมชน เพื่อขอเปิดตลาดใหม่ในพื้นที่เดิม แต่ผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดไม่ลงนามโครงการ เพราะเป็นการทำโครงการย้อนหลัง เพื่อเปิดตลาดประชารัฐ หลัะงจากรัฐบาลทำโครงการตั้งแต่ปี 2560

“นอกจากนั้นยังพบว่ามีหนังสือจากรักษาการ พช.จังหวัด ส่งถึงเทศบาลเมืองฯ ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2559 เพื่อส่งรายชื่อผู้ประสานงานจากคนนอกเปิดตลาดนัดชุมชน โดยไม่แจ้งผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นรับทราบ ขอให้ พช.คนปัจจุบันที่ปรากฏลายมือชื่อในเอกสาร แจ้งว่าใช้อำนาจใดลงนามแทนผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมเสนอรายชื่อแต่งตั้งบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐทำหน้าที่ผู้ประสานงาน ต่อมารองนายกเทศมนตรีสมัยนั้นได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการ 2 รายจากบุคคลภายนอก โดยแจ้งให้รับค่าตอบแทนจากเทศบาลได้ด้วย ขอให้เทศบาลชี้แจงว่าการแต่งตั้งให้บริหารตลาดใช้อำนาจหน้าที่จากระเบียบหรือกฎหมายฉบับใด” แหล่งข่าวกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image