ร้องแม่ถูกไฟชอร์ตนิ้วเกือบขาด อาการปางตาย เพื่อนบ้านแอบปล่อยใส่รั้ว อ้างไว้กันแมว

 

สลดลูกสาวบุกร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังแม่วัย 64 ถูกหนุ่มเพื่อนบ้านล้อมรั้วกำแพงและลวดหนาม ก่อนปล่อยกระแสไฟฟ้าชอร์ตอาการสาหัส กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ระบุเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าคันโทแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2562 นางสาวชบาทอง โกนันท์ อายุ 43 ปี พร้อมด้วยนางสาวปริศนา โกนันท์ อายุ 40 ปี น้องสาว เข้าร้องเรียนกับนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยระบุว่านางลำไย นาเมืองรักษ์ มารดา อายุ 64 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 1 บ้านนาตาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ถูกหนุ่มเพื่อนบ้าน ซึ่งหลังบ้านติดกัน สร้างกำแพงล้อมรั้วลวดหนามแล้วต่อสายไฟปล่อยกระแสไฟฟ้าชอร์ตได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลท่าคันโท และส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น โดยได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เวลาผ่านมากว่า 16 วันแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าในเรื่องคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบ และยังไม่มีความชัดเจนในการชดใช้ค่าเสียหาย เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากนางลำไยได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการยังไม่ดีขึ้น และส่อกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

นางสาวชบาทองกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา นางลำไยมารดา ซึ่งอาศัยอยู่กับสามีและหลานชายที่บ้าน รวม 3 คน ส่วนลูกๆ ได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งก่อนเกิดเหตุนางลำไยได้ก่อไฟนึ่งข้าว พร้อมทำความสะอาดบริเวณหลังบ้านที่อยู่ติดกับกำแพงรั้วเพื่อนบ้าน ซึ่งระหว่างที่กำลังทำความสะอาดอยู่นั้น มือเผลอไปจับขอบกำแพงและรั้วลวดหนามที่มีการต่อสายไฟฟ้าของเพื่อนบ้านจนทรุดลงกับพื้น นิ้วมือที่ถูกไฟฟ้าชอร์ตเป็นแผลลึกเกือบขาด ซึ่งขณะนั้นนายสรรพากร บุญชัย สามีและหลานได้ยินเสียงร้อง จึงรีบวิ่งออกมาดู เห็นนางลำไยเกาะและติดอยู่กับกำแพงรั้วลวดหนามที่มีสายไฟฟ้า จึงรีบดึงตัวของนางลำไยออกมา ซึ่งสามารถช่วยชีวิตไว้ได้หวุดหวิด และนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าคันโท แต่เนื่องจากอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งไปโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น และล่าสุดญาติได้นำตัวกลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน ซึ่งอาการของนางลำไยยังไม่ดีขึ้น ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มือทั้งสองข้างไม่มีแรง และขาทั้งสองข้างไม่มีความรู้สึก ขยับและเดินไม่ได้ ส่อกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา และอาจจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงตลอดชีวิต

Advertisement

นางสาวชบาทองกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มารื้อสายไฟของเพื่อนบ้านที่อยู่บนกำแพงรั้วลวดหนามหลังบ้านออกไปแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าของคดี ส่วนทางหนุ่มเจ้าของบ้านที่อยู่ติดกันและยอมรับเป็นคนต่อสายไฟฟ้ามาไว้บนกำแพงรั้ว เพื่อป้องกันแมวเข้าไปขโมยกินไก่และปลาก็ได้ไปเยี่ยมนางลำไยที่โรงพยาบาล 2-3 ครั้ง และมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะรับผิดชอบกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการที่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า 16 วัน ทางญาติจึงต้องเข้ามาร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

จากนั้นนางสาวชบาทองพร้อมญาติๆ ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 152 หมู่ 1 บ้านนาตาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ โดยบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งมีเนื้อที่ติดกัน มีการกั้นกำแพงปูนสูงประมาณ 150 ซม. ล้อมด้วยรั้วลวดหนาม 3 ชั้นอยู่ข้างบน และขึงด้วยตาข่ายพลาสติกสีเขียว ส่วนสายไฟที่มีการต่อไฟฟ้าจากบ้านมาบนกำแพงและลวดหนาม จนชอร์ตนางลำไยได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรื้อออกไปและเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนหน้านี้แล้ว

ด้านนายสรรพากร บุญชัย อายุ 78 ปี สามีนางลำไย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุภรรยาได้ก่อไฟหุงข้าวและทำความสะอาดบ้านไปด้วย ซึ่งอยู่ในเขตบ้านตัวเอง จากนั้นได้ยินเสียงร้องโอ๊ย จึงรีบวิ่งไปดู เห็นภรรยาถูกไฟฟ้าชอร์ตนั่งคุกเข่าอยู่ข้างกำแพงรั้วติดกับหลังบ้าน โดยมือยังจับอยู่ที่กำแพงรั้ว ตนและหลานชายจึงรีบเข้าดึงตัวออกมา ซึ่งก็พบว่าภรรยาหมดสติ และได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ บริเวณกำแพงที่อยู่หลังบ้านนั้น เพื่อนบ้านซึ่งมีเนื้อที่ติดกันได้ล้อมรั้วไว้ โดยสร้างเป็นกำแพงปูน ล้อมลวดหนาม และขึงตาข่าย แต่ไม่คิดว่าจะมีการปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ด้วย จนกลายเป็นเหตุการณ์ในครั้งนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.อำพร สายมะณี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวหลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้รับแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว โดยมี ร.ต.สุทิน บุญเกษม เป็นเจ้าของคดี และได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตลอดจนการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และเก็บหลักฐานแล้ว ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเอกสารใบรับรองแพทย์กับทางญาติ จึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้า เพราะทุกอย่างต้องดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวหนุ่มเจ้าของบ้านที่สร้างกำแพงรั้วมาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่ามีการเดินสายไฟมาไว้บนกำแพงรั้วลวดหนามจริง เพื่อป้องกันแมวที่มักจะแอบเข้าไปขโมยกินไก่และลูกปลาที่เพาะเลี้ยงไว้ขาย อีกทั้งพร้อมที่จะมีการเจรจาพูดคุยกับผู้เสียหายหากได้รับการนัดหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image