ไม่จบ! ครูปรีชา เตือนทนายตั้ม ไม่ควรโพสต์เฟซบุ๊กปลุกระดม ปชช.ให้เกลียดชัง ขู่ฟ้องกลับ

ไม่จบ! ครูปรีชา ยันรับลอตเตอรี่คดีหวย 30 ล้านจากเจ๊บ้าบิ่นจริง เตือนทนายตั้ม ไม่ควรโพสต์เฟสบุ๊กปลุกระดม ปชช.ให้เกลียดชัง ขู่ฟ้องกลับ

จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้ฟ้องแพ่งต่อหมวดจรูญ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีเลขดำที่ พ.1230/60 แต่ศาลได้จำหน่ายคดีแพ่งออกไปก่อนเพื่อรอฟังผลคำพิพากษาของคดีหลัก คือคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 การต่อสู้คดีดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 1 ปี สุดท้ายแล้ว ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา

และวานนี้ (31 ต.ค.62) หมวดจรูญ พร้อมด้วย ทนายษิทรา ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นฟ้อง ครูปรีชา และ ทนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ ในข้อหาหรือฐานความผิด “ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา” ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีประทับรับฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 และศาลไดนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 3 ก.พ.63 นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ 1 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวพบ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ที่บริเวณศาลาขุนแผน ถ.หลักเมือง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จึงเข้าไปพบพร้อมกับสอบถามถึงกรณีที่ หมวดจรูญ ยื่นฟ้อง ครูปรีชา เป็นจำเลยที่ 1 และ ทนายวรยุทธ เป็นจำเลยที่ 2 โดย ครูปรีชา ตอบว่า ได้รับหมายแล้ว ซึ่งตนเป็นผู้เสียหาย เพราะลอตเตอรี่ของตนหาย และเมื่อลอตเตอรี่หายก็ได้ไปแจ้งความโดยพนักงานสอบสวนได้ให้ตนนำหลักฐานการสั่งเลขและก็มีแม่ค้ามายืนยันว่าเราซื้อจากแม่ค้าคนนี้ ซึ่งลอตเตอรี่ก็มีการสั่งจองล่วงหน้า ถามว่าคำว่าเท็จคืออะไร คำว่าจริงคืออะไร เพราะจนถึงขณะนี้ลุงจรูญก็ยังไม่มีผู้ขายลอตเตอรี่ให้เลย สิ่งที่เราได้กระทำมาทั้งหมด เราทำตามความจริง และความจริงก็คือเราเป็นเจ้าของทรัพย์คือเจ้าของลอตเตอรี่อย่างแท้จริง โดยเรานำสืบข้อเท็จจริงทั้งหมด

Advertisement

แท้จริงแล้วตนอยากจะฟ้องกลุ่มบุคคลที่ยักยอกลอตเตอรี่ของตนไป ซึ่งมีมากกว่า 20 คน โดยเริ่มตั้งแต่เรื่องของซองลอตเตอรี่ ซึ่งซองลอตเตอรี่ได้หายไปตั้งแต่ในชั้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ซองลอตเตอรี่นั้นตนบอกเลยว่าตนหยิบ แต่เมื่อพอถึงเวลาเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ดีเอ็นเอจากซองปรากฏว่า พนักงานสอบสวน บอกว่าซองลอตเตอรี่นั้นหายไป ขอฝากถามไปถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ด้วยว่าให้ติดตามซองลอตเตอรี่ด้วยว่าการที่พนักงานสอบสวนทำซองลอตเตอรี่หายไปใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

ประเด็นต่อมาก็คือเรื่องที่ว่าทำไมตนต้องนำคดีนี้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายด้วยการฟ้องกับศาลโดยตรง เป็นเพราะพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 7 ที่ทำการสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ลุงจรูญมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ต่อมาคดีนี้ก็โอนย้ายไปอยู่ที่กองปราบ คดีนี้ตนกลายเป็นผู้ต้องหา ถูกออกหมายจับและมาจับกุมตนที่โรงเรียนโดยที่ตนเองนั้นไม่ได้หลบหนีไปไหนเลย ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก
ส่วน ทนายวรยุทธ ได้เข้ามาช่วยทำคดีตั้งแต่เริ่มต้น แต่ช่วงแรกยังไม่ได้เข้ามาแบบเต็มตัว เพราะตนมีทนายความอยู่แล้ว ซึ่ง ทนายวรยุทธ ได้เข้ามาสืบข้อเท็จจริงจากปากของตน จากปากของพยานทุกคน จากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งก็ยืนยันว่าลอตเตอรี่นั้นมีที่มาอย่างชัดเจน เส้นทางของลอตเตอรี่มีมาตั้งแต่ที่กองสลากฯ มาถึงยี่ปั๊ว มาถึงเจ๊พัช จนมาถึงเจ๊บ้าบิ่น และเจ๊บ้าบิ่นก็ส่งให้กับตน

แต่ด้วยเหตุทั้งตนและทนายวรยุทธ มาถูกกล่าวหาว่าเป็นจำเลยในข้อหาฟ้องเท็จ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนเท็จกันแน่ เพราะขณะนี้ลุงจรูญเองถึงแม้จะมีลอตเตอรี่ในมือแต่ก็ยังไม่มีแม่ค้าลอตเตอรี่คนไหนมายืนยันว่าเป็นคนขายให้ และนอกจากนี้ลุงจรูญก็ยังชี้สถานที่ไม่ถูกต้องว่าซื้อตรงบริเวณไหน ชี้ครั้งแรกชี้ตรงไหนก็ยังไม่ทราบ ชี้แม่ค้าตรงไหนก็ยังไม่รู้ ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นซื้อลอตเตอรี่ตรงจุดไหน นิติกรรมการซื้อคุณซื้อจากตรงไหนคุณก็ยังไม่รู้

Advertisement

กรณีที่หมวดจรูญจะฟ้องเพิ่มในข้อหาเบิกความเท็จ นั้น ครูปรีชา ตอบว่า ก็เป็นไปอย่างที่ตนพูด ฟ้องเองฟ้องตรงที่ศาลด้วยการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย และเราให้ข้อมูลจากข้อเท็จจริงไปทั้งหมดต่อกระบวนการยุติธรรมไปเรียบร้อยแล้ว โดยเราก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้อง เราก็ขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมายและได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว และศาลท่านก็รับอุทธรณ์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งหลังจาก หมวดจรูญ ยื่นฟ้องวานนี้ (31 ต.ค.) ก็ได้มีการพูดคุยกับ ทนายวรยุทธ โดยได้พูดคุยกันแล้วว่าสิ่งต่างๆ ที่ ทนายษิทรา ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เราก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเหมือนกัน ตนขอบอกประชาชนทั้งประเทศว่า ตนคือผู้เสียหาย และตอนนี้ข้อยุติด้านกระบวนการยุติธรรมก็ยังไม่เสร็จสิ้น ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนจริง คนเท็จ เพราะตนยังอุทธรณ์อยู่

และว่า “ดังนั้นคุณก็ใช้สิทธิ์ของคุณ ผมก็จะใช้สิทธิ์ของผม ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย และตอนนี้ผมก็ยังเป็นโจทก์อยู่ ขอฝากไปถึง ทนายษิทรา ด้วยว่า การที่คุณจะฟ้องตรงต่อศาล หรือฟ้องผ่านพนักงานสอบสวนในหลายๆ คดีที่ผ่านมา คุณใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย แต่การฟ้องของคุณ คุณไม่จำเป็นที่จะนำไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก เพื่อปลุกระดมประชาชนทั้งประเทศ เพราะเมื่อคุณโพสต์ ทำให้ผมเสียหาย ทำให้ประชาชนบางท่านที่ไม่เข้าใจว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร มาโพสต์ต่อว่าผม แต่ผมยังไม่เคยตำหนิ และอโหสิกรรมให้กับทุกคน แต่ถ้า ทนายษิทรา ทำแบบนี้ ผมก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายฟ้องกลับคุณเหมือนกัน”

“และคดีนี้ ทนายวรยุทธ เป็นทนายความที่มีคุณธรรมและมีความเมตตา และได้เข้ามาดูแลคดีให้ตน จากข้อเท็จจริงทั้งหมด การที่ท่านฟ้อง ทนายวรยุทธ ซึ่งตนยังไม่เคยเจอในประเทศไทย อยู่ๆ การที่ทนายความมาว่าความให้ลูกความจะมาถูกดำเนินคดีด้วย ฝากทาง ทนายษิทรา ว่า ท่านทำถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคดีต่างๆ เหล่านี้ ท่านก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย พวกเราก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย” ครูปรีชา กล่าว

ต้องขอขอบคุณประชาชนทั้งประเทศ ขอบคุณทุกคนทุกท่านที่คอยเป็นกำลังให้ ขอบคุณที่ทุกท่านยังให้โอกาส ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ขอบคุณศาลจังหวัดกาญจนบุรี ขอบคุณทุกท่านที่มีเมตตาและก็ให้โอกาส โดยเฉพาะในเรื่องของการยื่นอุทธรณ์คดีหลักในครั้งนี้นั้น ศาลท่านมีเมตตารับอุทธรณ์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

สำหรับกรณีที่ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ชี้ว่าครูไปซื่อลอตเตอร์รี่ในวันที่ 27 ต.ค.60 แต่ครูบอกว่าครูไปซื้อวันที่ 31 ต.ค.60 ในเรื่องนี้ ครูปรีชา ตอบว่า วันที่ 27 ตุลาคม 60 ตรงกับวันศุกร์ ซึ่งตรงกับวันที่มีตลาดนัดซึ่งตลาดเรดซิตี้จะมีตลาดนัดอาทิตย์ละ 2 วัน คือ วันศุกร์ และ วันอังคาร โดยในวันศุกร์ตนก็ไปตลาดนัด และตนก็ไปทุกครั้งที่มีตลาดนัดอยู่แล้ว โดยวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม ตนไม่ได้ไปซื้อลอตเตอรี่ แต่ไปซื้อกับข้าวเพราะตนจะต้องหยุดวันเสาร์และอาทิตย์ 2 วัน

แต่ในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ตนไปซื้อและรับลอตเตอรี่จากเจ๊บ้าบิ่นจริงๆ โดยมีพยานหลักฐานต่างๆ ที่เป็นพยานบุคคลหลายคนมาในตลาดนัดที่เจอตน เพราะทุกคนจะมาพบปะพูดคุยกับตน และเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่ลอตเตอรี่จะออกเพียง 1 วันเท่านั้น

ดังนั้นข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ตนได้นำเรียนไปยังประชาชนทั้งประเทศแล้วว่าตนไปซื้อจริง แต่สัญญาณโทรศัพท์ตามที่มีหลายๆ คนมาถามว่าสัญญาณโทรศัพท์ของครูไม่มี สัญญาณโทรศัพท์เป็นสิ่งที่มีหรือไม่มีตนก็ไม่ทราบเพราะอยู่ในเครื่องโทรศัพท์ แต่เบสสัญญาณโทรศัพท์ที่ทางเอไอเอส แจ้งโดยบอกว่าไม่สามารถยืนยันได้ว่าวันที่ครูมาซื้อลอตเตอรี่ครูอยู่ตรงไหน เพราะสัญญาณโทรศัพท์เป็นเพียงเบสของบริษัทที่ใช้สำหรับเก็บเงินต้นทางปลายทางเท่านั้น

“สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากเรื่องเกี่ยวกับการที่ตนไปแจ้งความทนายษิทราและหมวดจรูญเอาไว้ที่กองปราบ ในเรื่องของการนำเอกสารเบสสัญญาณโทรศัพท์ส่วนตัวของตน ซึ่งอยู่ในมือของลุงจรูญและทนายษิทรา ที่เอามาซักค้านในศาล ซึ่งตนได้นำเอาเอกสารชุดนี้ไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนของกองปราบ ก็ขอฝากไปถึงพนักงานสอบสวนว่า เอกสารชุดนี้เป็นเอกสารส่วนตัวของตน หลุดไปอยู่ในมือของลุงจรูญได้อย่างไร” ครูปรีชา กล่าวตั้งคำถามทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image