โรคไข้หวัดใหญ่ใต้ตอนล่างแนวโน้มพุ่ง สคร.12 แนะ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด”

สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานยังไม่ดี “เน้นย้ำ” ป้องกันการเจ็บป่วย ปิดปากปิดจมูกเวลาไอจาม หมั่นล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงผู้ที่มีอาการป่วยและพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่หนาแน่น และหยุดเรียนหยุดงานจนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลากล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 24 ต.ค.62 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 6,535 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต

“สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ จ.สงขลา พบว่าอัตราป่วยของโรคไข้หวัดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง มีรายงานผู้ป่วย 1,469 ราย และไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 0 – 4 ปี เด็กวัยเรียนอายุ 5 – 9 ปี และ 10 – 14 ปี อ.คลองหอยโข่งมีอัตราป่วยสูงสุด รองลงมาได้แก่ สิงหนคร เมืองสงขลา ควนเนียง สะเดา และหาดใหญ่”

นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา

นายแพทย์เฉลิมพลกล่าวว่า อ.หาดใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.สงขลา มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 348 ราย (อัตราป่วย 86.25 ต่อประชากรแสนคน) ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ จากสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันพบว่ามีแนวโน้มการป่วยเพิ่มขึ้น แต่พบอัตราการเสียชีวิตลดลงและไม่พบผู้เสียชีวิตในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

Advertisement

นายแพทย์เฉลิมพล กล่าวว่ามาตรการป้องกันไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ จ.สงขลาการให้บริการฉีดวัคซีนครอบคลุมใน 7 กลุ่มเสี่ยง การเฝ้าระวังและตรวจจับเหตุการณ์การระบาด การเฝ้าระวังผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และผู้ป่วยกลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ในสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ดำเนินการควบคุมโรคในพื้นที่ที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนอย่างรวดเร็ว

นายแพทย์เฉลิมพลกล่าวว่าขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่โดยหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรือที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก เพราะโรคไข้หวัดใหญ่ สามารถติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง (น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ) ของผู้ป่วย ผ่านการไอหรือจามรดกัน หลังจากได้รับเชื้อจะมีไข้สูง อาการคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อมากและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย แต่สามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน

Advertisement

“กลุ่มเสี่ยงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปอดบวม หายใจลำบาก และอาจทำให้เสียชีวิตได้ ขอให้ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ปิดปากปิดจมูก เมื่อไอจาม ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย หยุดเมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดงานแม้จะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หอบหืด ผู้ที่มีโรคอ้วน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image