สลด! ขับรถพาครอบครัวเที่ยว เสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง พ่อแม่-ลูกวัย 10 เดือนดับอนาถ

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน  ร.ต.ท.จิรพงษ์ เกิดเรณู รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สังขละบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีรถกระบะประสบอุบัติเหตุพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง บนทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 239-240 สายทองผาภูมิ-สังขละบุรี บริเวณจุดชมวิวป้อมปี่ หมู่ 4 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานโรงพยาบาลทองผาภูมิ มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ร่วมให้ความช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และพลเมืองดีที่ผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์ กำลังร่วมกันช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บย 4955 กาญจนบุรี ชนอัดติดอยู่กับต้นไม้ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย เป็นหญิง 2 ราย ชาย 1 ราย และเด็กหญิงอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลทองผาภูมิ เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน แต่สุดท้ายผู้ได้รับบาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมาจำนวน 3 ราย ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางแสงอรุณ ทองประศรี อายุ 50 ปี นายอุดม ทองประศรี อายุ 61 ปี และเด็กหญิงพัชร์สิตา ทองประศรี อายุ 10 เดือน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ นางสาวกนกลักษณ์ ทองประศรี อายุ 35 ปี คนขับ อาการสาหัส ได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมืองกาญจนบุรี

เบื้องต้นจากการสอบถามญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งขับตามหลังรถกระบะคันที่เกิดเหตุมา เล่าว่า พวกตนเดินทางมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อจะไปเที่ยวพักผ่อนและเยี่ยมญาติในช่วงวันหยุด ที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยรถคันเกิดเหตุมีนางสาวกนกลักษณ์ เป็นคนขับ และมีลูกสาววัย 10 เดือน ของนางสาวกนกลักษณ์ รวมถึงนายอุดม และนางแสงอรุณ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของนางสาวกนกลักษณ์ โดยสารมาด้วย เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง จู่ๆ รถของ นางสาวกนกลักษณ์ ก็เกิดเสียหลักท้ายสะบัด จนทำให้รถหลุดโค้งพุ่งชนกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างทางเข้าอย่างจัง จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรอให้ นางสาวกนกลักษณ์ อาการดีขึ้น จึงจะทำการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image