เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำผู้หญิงอายุเฉลี่ย 20-35 ปี นับสิบคน ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มบุคคลอ้างเป็นผู้รับมอบอำนาจช่วงจากเจ้าของลิขสิทธิ์รูปการ์ตูนชื่อดังวางอุบายกรรโชกทรัพย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ของคดีและนัดให้ถ้อยคำเพิ่มเติม 
นอกจากนี้ พบผู้เสียหายส่วนหนึ่งทยอยเดินทางเข้าพบนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และทนายความอาสาได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณทางเข้าห้องพนักงานสอบสวน เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายฟรี ส่วนใหญ่ระบุพฤติการณ์ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน เริ่มต้นจากการสนทนาในห้องส่วนตัวของผู้เสียหายที่โพสต์รับจ้างประดิษฐ์หรือทำสิ่งของชำร่วยในกลุ่มเพจ จากนั้นว่าจ้างให้ทำสิ่งของที่มีรูปการ์ตูนลิขสิทธิ์และนัดส่งสินค้าที่ศูนย์การค้าหรือสถานที่สาธารณะในเขตเมืองนครราชสีมา ก่อนกลุ่มดังกล่าวแสดงตัวอ้างได้รับมอบอำนาจช่วงจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ละควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ โดยผู้เสียหายยืนยันมีนายประจักษ์ โพธิผลและนายนัน กิ่งเพชร อยู่ในเหตุการณ์กรรโชกทรัพย์ด้วย
นายพรเทพกล่าวว่า บทสรุปมีผู้เสียหายจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์มาขอคำปรึกษาทางกฎหมายเพิ่มอีก 4 ราย ล่าสุดรวม 44 ราย กว่าครึ่งเป็นลิขสิทธิ์เกี่ยวข้องกับโดราเอมอน กระบวนการหลังแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ พนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หากพยานหลักฐานไม่ชัดเจนจะไม่รับเป็นสำนวนคดี มิเช่นนั้นอาจเป็นการแจ้งความเท็จ
ขณะที่ นายอัจฉริยะกล่าวว่า ได้นัดผู้เสียหายรายใหม่กว่า 10 ราย ส่วนใหญ่ถูกกล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ์โดราเอมอน มูลค่าความเสียหายรายละ 2-5 หมื่นบาท เข้ามาให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน เน้นการตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียหายแต่ละรายถูกกระทำจากผู้รับมอบอำนาจช่วงชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงพนักงานสอบสวนที่ลงบันทึกประจำวัน ได้สอบปากคำผู้เสียหายหรือไม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไม่ได้ควบคุมตัวผู้ละเมิดลิขสิทธิ์มาสอบสวน แต่ปล่อยให้กลุ่มที่อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ควบคุมมาเองโดยยานพาหนะส่วนตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริงรวมทั้งประสานขอข้อมูลที่เป็นเอกสารยืนยันจากบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ได้มอบอำนาจหรือไม่ หากเป็นการแอบอ้าง ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายจะต้องดำเนินคดีภายหลัง
“สำหรับนายนัน กิ่งเพชร ผู้ชายที่มีหนวด อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์โดยใช้หนังสือมอบอำนาจช่วงดำเนินการจับกุมถือมีความผิดชัดเจน เนื่องจากมีการยืนยัน นายนันพร้อมพวกไม่มีสิทธิและไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทที่ได้รับมอบอำนาจ จึงให้ผู้เสียหาย 3 ราย แจ้งความดำเนินคดีข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์, แจ้งความเท็จ, ใช้เอกสารราชการปลอมและกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนกรณีของนายประจักษ์ ยังไม่ชัดเจนอยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากนายประจักษ์ อ้างว่าได้รับอำนาจโดยชอบ เชื่อในเกียรติของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่ รวมทั้ง รอง ผบ.ตร.ควบคุมคดีนี้ด้วยตัวเอง ทำให้ผู้เสียหายทุกรายต้องได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน” นายอัจฉริยะกล่าว
