เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา น.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก นายเชาวลิต นิฒรรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา นายวิโรจน์ คชเลิศ วิศวกรชลประทานชำนาญการโครงการชลประทานสงขลา ผู้แทนศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการรับมืออุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม ในพื้นที่ 16 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนหากเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที ตลอด 24 ชม.
น.ส.พะเยาว์ กล่าวว่า ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. 62 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน และในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. 62 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยใน ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น คลื่นลมในอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
น.ส.พะเยาว์ กล่าวว่า พยากรณ์อากาศในช่วงวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2562 พบว่ามีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 % ของพื้นที่ ส่วนวันที่ 17-18 มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 % ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 20 – 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูง 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนระวังฝนตกหนัก ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ด้านนายเชาวลิต กล่าวว่า เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมทั้งในด้านกำลังพล เครื่องจักร เครื่องมือ ในการให้ความช่วยเหลืองานด้านต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา เพื่อเป็นการป้องกันหรือลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่าโครงการชลประทานสงขลาได้นำเสนอข้อมูลด้านสถานการณ์น้ำ ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ลุ่มน้ำคลองรัตภูมิ ลุ่มน้ำคลองนาทวี ลุ่มน้ำคลองเทพาและลุ่มน้ำคาบสมุทรสทิงพระ ตลอดจนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองหลา คลองจำไหรและคลองสะเดา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติที่สามารถควบคุมได้
