เช้าวันนี้ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดบึงกาฬ มีอุณหภูมิกลางคืนอยู่ระหว่าง 17-19 องศา ส่วนกลางวันอุณหภูมิ 24 -28 องศา โดยทั่วไปอากาศกำลังเย็นสบาย โดยเฉพาะอากาศตอนกลางคืนถึงรุ่งเช้ามีอากาศเย็นและมีหมอกลงในตอนเช้าสภาพอากาศเช่นนี้ ส่งผลดีต่อพืชผักระยะสั้นที่ชอบอากาศหนาว จึงเป็นโอกาสดีของชาวบ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านท่าไคร้ บ้านท่าโพธิ์ บ้านนาโนน ต.บึงกาฬ รวมทั้งบ้านพันลำ บ้านแสนเจริญ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ต่างใช้โอกาสนี้ทำการปลูกพืชผักระยะสั้น บริเวณริมแม่น้ำโขง เช่น ผักกาด ผักคะน้า ผักสลัด ผักชี ต้นหอม กระเทียม และผักชนิดอื่นๆ
โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกผักปลอดสารพิษ บ้านพันลำ ม.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ เมื่อพืชผักเหล่านี้เจอกับอากาศที่เหมาะสม ทำให้เจริญเติบโตดี มีลำต้นอวบใหญ่ อีกทั้งมีรสชาติ อร่อย หวานกรอบ ได้คุณภาพดีกว่าปลูกในพื้นที่อื่นๆ แถมมีราคาถูกกว่าท้องตลาด จึงเป็นที่นิยมของชาวบ้านที่รักสุขภาพ โดยเกษตรกรจะตัดขายในทุกวันในช่วงเช้า และเย็น ซึ่งราคาที่ขายก็ไม่แพง เช่น ผักคะน้า 40 บาท/กก. ผักคะน้า(ขาใหญ่) 60 บาท/กก. ผักสลัด(ช่วงออกใหม่) 7-80 บาท/กก. ผักกาดฮองเต้ 40 บาท/กก. ต้นหอม 30 บาท/กก. กระเทียม 50 บาท/กก. ส่วนผักชีลาว/บรอกโคลี/ผักกวางตุ้ง ผลผลิตยังไม่ออก ซึ่งวันหนึ่งๆ เกษตรกรตัดผักขายมีรายได้ไม่น้อยกว่า 1,000 บาทต่อวันและโดยเฉพาะวันอังคารและวันศุกร์ ที่มีตลาดนัดไทย-ลาว จะมีออเดอร์สั่งซื้อผักไปจำหน่ายเป็นจำนวนมากสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว
