เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะและนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคม ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวประเด็นโครงการจะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต โดยมีข้อความระบุว่า จะนะเมืองอุตสาหกรรมหนัก ตอนที่ 1 : นิคมอุตสาหกรรมจะนะ คนหาดใหญ่สงขลากระทบไหม มหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่งในสงขลาช่วยศึกษาด้วย!! ตามแผนที่ ศอ.บต.ภายใต้การอนุมัติเห็นชอบของรัฐบาล ได้อนุมัติแผน 5 ปี 2562-2566 ให้จะนะเป็นเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ประกอบด้วย ท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 โรงไฟฟ้าขนาดราว 2,800 เมกะวัตต์ และนิคมอุตสาหกรรมหนัก 10,000 ไร่ ในเบื้องต้น ประกอบเข้ากับอุตสาหกรรมหนักที่มีอยู่แล้วคือโรงแยกก๊าซไทยมาเลเซียและโรงไฟฟ้าจะนะเดิม
คำถามสำคัญคือ จะนะเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักแล้ว ผลกระทบจะมาถึงเมืองหาดใหญ่และสงขลาไหม แค่ไหน และจะทำให้จังหวัดสงขลาเปลี่ยนภูมิทัศน์และระบบความสมดุลทางเศรษฐกิจที่ปัจจุบันพึ่งพึงเศรษฐกิจ 3 ขา คือ เกษตร อุตสาหกรรมและการบริการ/ท่องเที่ยวไหม สงขลาควรมีทิศทางเป็นอย่างไร
ในอดีตเวลาทำ EHIA ทางเจ้าของโครงการก็มักจะขีดวงมลพิษที่รัศมี 5 กิโลเมตร และศึกษาทีละโรงงานๆ ไป ซึ่งก็มักจะผ่านทุกโรงงาน แต่ผลกระทบโดยภาพรวมนั้นมักไม่มีการประเมิน รอให้ประชาชนประเมินเองเวลามีกลิ่น มีเสียง มีน้ำเสีย มีไฟไหม้หรือการระเบิดแบบที่เกิดที่ระยอง
ผมเองอยากให้ทางมหาวิทยาลัยในจังหวัดสงขลาที่มีถึง 5 มหาวิทยาลัยคือ ม.สงขลานครินทร์ ม.ทักษิณ ม.ราชภัฏสงขลา ม.ราชมงคลศรีวิชัย และ ม.หาดใหญ่(ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน) ร่วมกันทำการศึกษาอย่างเป็นระบบ จะได้ใช้วิชาการมานำ มาแทนการตัดสินโดยใช้อำนาจนิยมนำของรัฐบาลและ ศอ.บต.
หากไม่กระทบสิ่งแวดล้อมหรือวิถีชีวิต หรือหากกระทบเพียงเล็กน้อยและมีกลไกการบรรเทาผลกระทบที่คนสงขลาและชาวบ้านยอมรับได้ คนสงขลาต้องการเป็นจังหวัดอุตสาหกรรมหนัก การเปลี่ยนสงขลาเป็นระยองและมาบตาพุดก็มีความชอบธรรม
อำนาจนิยมมักไม่ชอบงานวิชาการและการมีส่วนร่วมของประชาชน มหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่งในจังหวัดสงขลา คือความหวังของคนสงขลาที่อยากจะเห็นมหาวิทยาลัยรับใช้สังคมอย่างแท้จริงครับ
