ส.ส.ขอนแก่น เตือน ปชช.อย่าเชื่อ! แชร์ออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านหนองกุง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พบปะประชาชนในพื้นที่เพื่อติดตามแผนการดำเนินงานร่วมกันระหว่างชุมชน กับโครงการของรัฐบาลในด้านต่างๆ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้หลงเชื่อกับขบวนการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์, แชร์ หรือการหลอกหลวงในรูปแบบต่างๆ ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ จนมีผู้หลงเชื่อจนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยในการพูดคุยและแจ้งเตือนดังกล่าวนี้ได้มีการยกตัวอย่างของแชร์ชื่อดังที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม รวมทั้งการไล่เรียงถึงพฤติกรรมถึงกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการแอบอ้างหน่วยงานต่างๆ ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อจนตกเป็นเหยื่อ ท่ามกลางความสนใจของคนในชุมชนที่มาร่วมรับฟังจำนวนมาก

นายวัฒนา กล่าวว่า แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำการกวดขันจับกุม กลุ่มมิจฉาชีพที่กระทำการก่อเหตุหลอกลวงประชาชน ดูได้จากการจับกุมกลุ่มขบวนการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ขบวนการดังกล่าวนี้ก็ยังคงมีเกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ โดยอาศัยความเชื่อและความน่าเชื่อถือและที่สำคัญคือ การอ้างถึงผลประโยชน์ที่ได้รับในจำนวนที่มากเกินความเป็นจริง อาทิ ลงทุน 100,000 บาท ได้เงินปันผลคืน 1 ล้านบาท ในระยะเวลาที่กำหนด แรกๆ ก็มีการปันผลตามขั้นบันได แต่ในระยะต่อไปก็จะอ้างเหตุผลต่างๆนานา จนไม่มีการจ่ายเงิน ซึ่งพฤติกรรมประเภทดังกล่าวนี้มีเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีผู้หลงเชื่อกระจายอยู่ในหลายจังหวัดทั่วทั้งประทเศ

“นอกจากการกล่าวอ้างเรื่องเงินปันผลในราคาที่สูงกว่าที่กฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดแล้ว ยังคงมีพวกกล่าวอ้างเรื่องการลงทุน ที่ใช้วิถีพุทธ มาใช้ในเรื่องของบาป บุญ คุณ โทษ การลงทุนในเรื่องของสิทธิต่างๆ รวมไปถึงการกล่าวอ้างการลงทุนในเงินสนับสนุน หรือการนำโครงการต่างๆ ของภาครัฐมาใช้ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเป็นความจริง เพราะโครงการของรัฐ ทุกโครงการนั้นเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงอยากให้ผู้ที่ถูกกลุ่มคนเหล่านี้พยายามที่จะหลอก หรือพยายามที่จะมาพูดคุยเพื่อให้หลงเชื่อด้วยการสร้างความน่าเชื่อถือ หรือสร้างหลักฐานต่างๆเพื่อความเชื่อถือ ให้ตรวจสอบโครงการหรือสิ่งที่กลุ่มขบวนการดังกล่าวนั้นกล่าวอ้างกับหน่วยงานรัฐโดยตรง เพื่อป้องกันการถูกหลอกจนก่อให้เกิดการสูญเสียตามมา”

Advertisement

นายวัฒนา กล่าวอีกว่า ส.ส.พื้นที่เป็นผู้แทนประชาชนที่ทุกคนสามารถที่จะติดต่อประสานงานหรือสอบถามถึงรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ได้ เพราะ ส.ส.เมื่อได้รับเลือกจากประชาชน จึงต้องทำงานในด้านต่างๆ ในฐานะผู้ทนได้อย่างครอบคลุมและครบถ้วนที่สุด ดังนั้น การแพร่ระบาดของกลุ่มขบวนการมิจฉาชีพที่เข้ามาหลอกลวง ที่วันนี้พบว่าถูกหลอกครอบคลุมทุกเพศและทุกวัย ตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุ จนเกิดการสูญเสีย บางคนลาออกจากงานเพื่อหวังที่จะได้รับเงินปันผลที่ลงทุนไป แต่แล้วก็ต้องรับภาพกับการถูกหลอกจนสิ้นเนื้อประดาตัว ดังนั้นถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องคิด วิเคราะห์ กับพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการต่างๆที่กล่าวอ้าง มาในรูปแบบของแชร์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมไปถึงการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจนต้องสูญเสียทรัพย์สินอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image