คณะปั่นสู้ไฟเดินทางถึงเชียงรายแล้ว ระดม 4แสน สมทบทุนดับไฟป่า-ลดหมอกควันในฤดูแล้ง

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ที่วัดพุทธอุทยาน (ดอยอินทรีย์) ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง และมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ร่วมกับกลุ่มนักปั่นสะพานบุญ จัดกิจกรรมการปั่นจักรยานทางไกลกรุงเทพฯ-เชียงราย และทอดผ้าป่าสามัคคี ตามโครงการพระสงฆ์ช่วยงานด้านป่าไม้ของวัดพุทธอุทยานฯ ที่มีพื้นที่ในโครงการกว่า 8,500 ไร่ และทุกปีจะเกิดไฟป่าขึ้นบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดค่าฝุ่นละอองและหมอกควันที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศต่อ 2.5 ลูกบาศก์เมตร หรือ พีเอ็ม 2.5 เกินค่ามาตรฐาน จึงจัดกิจกรรมขึ้นเพื่อจัดหารายสมทบทุนการจัดซื้ออุปกรณ์ในการดับไฟป่าในช่วงฤดูแล้ง


สำหรับคณะนักปั่นจักรยานทั้งหมด เดินทางออกจากสวนวชิรเบญจทัศ กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน เริ่มเข้าพักที่วัดใหม่ปากบาง ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ จ.กำแพงเพชร จ.ตาก จ.ลำปาง และ เข้าสู่ จ.เชียงราย ทาง อ.เวียงป่าเป้า ก่อนเข้าพักที่พุทธมณฑล จากนั้นตั้งขบวนนักปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพเดินทางจากพุทธมณฑล อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ไปยังวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ระยะทาง 8 กิโลเมตร จากนั้นเดินทางไปยังห้าแยกพ่อขุน ระยะทาง 13.6 กิโลเมตร และวัดร่องเสือเต้น วัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย แต่ละจุดมีกิจกรรมรณรงค์ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ก่อนเดินทางไปยังวัดพุทธอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 22.4 กิโลเมตร โดยมีกิจกรรมสักการะพระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน ทอดถวายผ้าป่า และรณรงค์ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน


ในกิจกรรมดังกล่าว มีพระอาจารย์วิบูลย์ ธ้มมเตโช เจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยานฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายนิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอำนาจ เจิมแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย พ.อ.สิงหนาถ โลสุยะ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 37 นางเยาวลักษณ์ ศรีสายเชื้อ จากสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.เชียงราย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย คณะปั่นจักรยานทั้งหมด และพุทธศาสนิกชนชาวเชียงราย ร่วมถวายผ้าป่าเพื่อนำไปดำเนินโครงการ ซึ่งพบมีผู้ร่วมบริจาคสมทบทุนหลายราย อาทิ พระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส เจ้าอาวาสวัดปลากั้ง อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ฯลฯ ขณะที่กิจกรรมครั้งนี้ได้รับรายได้ยอดรวม 410,440 บาท

สำหรับวัดพุทธอุทยานฯ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและป่าอุทยานแห่งชาติ สวนป่าแม่ลาวฝั่งซ้ายและแม่ลาวฝั่งขวา โดยอยู่ภายใต้โครงการพระสงฆ์ช่วยงานด้านป่าไม้ที่มีประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องในโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และด้วยพื้นที่ที่เป็นป่ากว้างขวางจึงมักเกิดไฟป่าเป็นประจำทุกฤดูแล้งจนทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควัน กระทั่งมีการดำเนินกิจกรรมเพื่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

Advertisement

นายสุทธิชัย สุศันสนีย์ ผู้ประสานงานกลุ่มนักปั่นสะพานบุญ กล่าวว่าโครงการนี้เริ่มต้นจากวัดพุทธอุทยาน (ดอยอินทรีย์) ต้องการได้ทุนใดำเนินการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จึงเชิญชวนกันมาปั่นจักรยาน โดยใช้ชื่อว่า “ปั่นไป ดับไฟป่า” โดยเดินทางจากกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน เพื่อเป็นสะพานบุญให้ทุกคนได้ร่วมกันทำบุญ จึงเปิดรับบริจาคตามรายทางเรื่อยๆมาตามจังหวัดต่างในเส้นทางผ่านระยะเวลา 10 วัน แม้การเดินทางจะลำบาก บางช่วงมีอุปสรรคมากมาย แต่ทุกคนกว่า 40 ชีวิตไม่ท้อปั่นกันมาจนถึงจุดหมายได้สำเร็จ โดยมีกระแสตอบรับจากประชาชนร่วมบริจาคจำนวนมาก โดยกลุ่มดำเนินการปั่นสะพานบุญลักษณะนี้มานานกว่า 10 ปี แต่ปั่นสู้ไฟเป็นครั้งปรก ด้วยความตั้งใจจะช่วยแก้ไขและลดปัญหาไฟป่าหมอกควันให้ภาคเหนือ อยากประชาชนที่ยังเผาป่าสร้างมลภาวะ ตระหนักและควรหยุดเผาได้แล้วเพื่อประเทศชาติจะมีอากาศบริสุทธิ์ ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่

Advertisement

ด้านนายมนัส คำต่าย หัวหน้าฝ่ายป้องกัน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยเชียงราย กล่าวว่า เชียงรายปีที่ผานมาถือว่าประสบปัญหาไฟป่าหมอกควันที่รุนแรงมีจุดฮอทสปอตกว่า 900 จุด ซึ่งปีนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพยายามวางมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆ ทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการเผาไหม้ ให้ความรู้ั และเตรียมแผนจัดทำแนวกันไฟ จัดกำลัง ซึ่งภาครัฐมีงบประมาณจำกัด การที่ภาคเอกชนหรือกลุ่มจิตอาสา เช่น กลุ่มนักปั่นสะพานบุญปั่นระดมทุนมาสมทบโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ถือว่าดีมาก ทำมีทุนทำแผนการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าในรูปแบบต่างๆ ช่วยเหลือทางภาครัฐอีกทางหนึ่ง หากมีหลายๆกลุ่มมาช่วย เชื่อว่าปัญหาไฟป่าจะทุเลาลงหรือหมดปัญหาไปได้ในที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image