พิพากษายกฟ้อง ‘หมวดจรูญ’ หลัง ‘เจ๊บ้าบิ่น’ ฟ้องเดี่ยว ทนายตั้มลั่นจากนี้ขอเป็นโจทก์บ้าง

จากกรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ต่อมา วันที่ 4 มิถุนายน 2562 ศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดฟังคำพิพากษาคดี ผลคือศาลยกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ แต่คดีย่อยยังมีอีกหลายคดี เนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ ได้เข้าพบ พ.ต.ต.ชัยวัชริศ สิงห์สังข์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ในคดีอาญา โดยแจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2560 นางสาวรัตนาพรได้ขายสลากกินแบ่งฯ หมายเลข 533726 จำนวน 5 ใบ ในราคา 700 บาท ซึ่งเกินราคากว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสลากกินแบ่งฯ ดังกล่าวเป็นสลากในงวดที่ออกสลากรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560

ต่อมา วันที่ 25 ตุลาคม 2561 อัยการจังหวัดกาญจนบุรีได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้มีการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว จึงเป็นกรณีที่ตามกฎหมายถือว่าคดีอาญานี้ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว จึงมีคำสั่งไม่ฟ้องนางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น จากนั้นนางสาวรัตนาพรได้ฟ้องร้องทนายษิทราเพียงคนเดียว ซึ่งศาลประทับรับฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ อ.1094/62 ซึ่งคดีนี้ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องไปแล้ว และศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2562 ที่ผ่านมา

ขณะที่นางสาวรัตนาพรยังได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1095/62 ในข้อหาฐานความผิด แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องไปเมื่อวันที่ 13 ก.ย.62 และนัดฟังคำสั่งหรือฟังคำพิพากษาวันที่ 19 พ.ย.62

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 พฤศจิกายน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางมาฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาตามที่ศาลนัดเอาไว้ โดยครั้งนี้ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว ขณะที่นางสาวรัตนาพรในฐานะโจทก์ก็ไม่ได้เดินทางมา แต่ได้มอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาฟังคำสั่งแทน

Advertisement

ทั้งนี้ นายษิทราเปิดเผยก่อนเข้าไปภายในบัลลังก์ว่า วันนี้มาศาลเป็นคดีสุดท้ายในฐานะที่เป็นจำเลย และทนายจำเลยของทีมลุงจรูญ ซึ่งคดีนี้เจ๊บ้าบิ่นฟ้องเดี่ยวลุงจรูญ ในข้อหาฐานความผิด แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ หลังจากศาลมีการไต่สวนมูลฟ้องไปแล้ว วันนี้ศาลจึงได้นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งว่าจะยกฟ้อง หรือสั่งมีมูล ส่วนสาเหตุที่ลุงจรูญไม่ได้เดินทางมาด้วยเนื่องจากมีญาติมาเยี่ยมที่บ้าน สำหรับวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เรามาในฐานะจำเลย คราวหน้าเราคงจะมาในฐานะที่เป็นโจทก์บ้างแล้ว

“สำหรับคดีแรกที่ลุงจรูญฟ้องคือฟ้องทนายความของครูปรีชา เกี่ยวกับเรื่องการหมิ่นประมาท ซึ่งในวันที่ 25 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ศาลจะเริ่มไต่สวนมูลฟ้อง ส่วนการฟ้องกลับฝ่ายครูปรีชาคงจะเป็นปี 2563 โดยจะฟ้องกลับทุกกรรมที่เขาฟ้องเรามา ส่วนจำนวนที่จะฟ้องมีเกิน 5 คน ซึ่งจะเป็นตัวหลักๆ ครบทั้งหมด โดยเราจะดูเจตนาว่าคนที่มาเบิกความนั้นต้องการที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือไม่ หากมีเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริงเราก็จะดำเนินคดีอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่ถ้าหากดูแล้วว่าคนที่มาเบิกความไม่ค่อยแน่ใจ หรือมาเบิกความโดยที่ไม่มีเจตนาที่จะให้การเท็จ เราก็คงจะไม่ดำเนินคดีเพื่อเป็นการกลั่นแกล้ง” นายษิทรากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจึงแล้วเสร็จ จากนั้นนายษิทราได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า วันนี้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องลุงจรูญ ซึ่งศาลท่านบอกว่าคดีนี้เจ๊บ้าบิ่นไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่คดีนี้เกิดจากการที่ตนไปแจ้งความดำเนินคดีเจ๊บ้าบิ่น ในเรื่องขายหวยเกินราคา ส่วนลุงจรูญมาเป็นพยาน ซึ่งลุงจรูญได้ให้การไปว่าจำหน้าไม่ได้ว่าคนขายลอตเตอรี่ให้นั้นคือใคร

Advertisement

“ในเมื่อครูปรีชาไปออกรายการทีวี ส่วนเจ๊บ้าบิ่นได้ออกมายอมรับว่าเป็นคนขายหวยเกินราคา ตนจึงไปแจ้งความ แต่ลุงจรูญก็โดนฟ้องดำเนินคดีไปด้วย ซึ่งในวันนี้ศาลท่านได้มีคำพิพากษายกฟ้องลุงจรูญไปแล้ว ศาลท่านบอกเลยว่า ในเรื่องของการขายสลากเกินราคา สาระสำคัญอยู่ที่ว่าเจ๊บ้าบิ่นได้ขายสลากเกินราคาหรือไม่ ส่วนการที่เขาจะขายให้ใคร ไม่ใช่สาระสำคัญ

“และในคดีนี้ เจ๊บ้าบิ่นก็รับสารภาพไปแล้วว่าได้ขายหวยเกินราคาจริง ฉะนั้น เจ๊บ้าบิ่นจึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะสามารถมาฟ้องลุงจรูญได้ ซึ่งศาลท่านไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นอื่นเลย ทั้งนี้ ในฐานะทนายของจำเลยในคดีก็คงจะจบลงเพียงเท่านี้ ส่วนสัปดาห์หน้าก็คงจะเป็นเรื่องที่ลุงจรูญเป็นโจทก์ยื่นฟ้องทนายความของครูปรีชาเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ส่วนอีก 1 คดี ฟ้องเกี่ยวกับเรื่องการฟ้องเท็จ คนที่โดนฟ้องมีครูปรีชา และทนายความส่วนตัวของครูปรีชา” นายษิทรากล่าว

นายษิทรากล่าวต่อว่า คดีหลักที่ทนายความของครูปรีชายื่นอุทธรณ์ไปนั้น ตนได้อ่านคำอุทธรณ์อย่างละเอียดแล้ว ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200 หน้า จากนั้นทางทนายอาคม คงสวัสดิ์ ก็จะทำหน้าที่แก้อุทธรณ์ จาก 200 หน้า คงจะแก้เหลือเพียงแค่ประมาณ 4 หน้าเท่านั้น ส่วนระยะเวลาอุทธรณ์ขึ้นอยู่กับศาลอุทธรณ์ว่าท่านมีสำนวนอื่นค้างอยู่อีกเยอะหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าเร็ว ภายในปีนี้หลังจากยื่นคำแก้อุทธรณ์แล้วเสร็จ ภายในปีหน้าคาดว่าไม่เกินเดือนเมษายน น่าจะได้ฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีหลักแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่ฝ่ายครูปรีชาฟ้องฝ่ายหมวดจรูญ ประกอบด้วย 1.ครูปรีชาฟ้องหมวดจรูญคดีหลักหวย 30 ล้าน ข้อหายักยอก รับของโจร / ศาลพิพากษายกฟ้อง 2.ครูปรีชาฟ้องหมวดจรูญ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการที่ลุงจรูญให้สัมภาษณ์ว่า “คนที่เลวโดยสันดานการศึกษาก็ช่วยไม่ได้” / ศาลพิพากษายกฟ้อง 3.ครูปรีชาฟ้องทนายษิทรา ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการแชร์บทความอาจารย์สัญญาลักษณ์ / ครูปรีชาถอนฟ้อง 4.นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ฟ้องทนายษิทรากับหมวดจรูญ ข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นรับโทษทางอาญา จากการที่แจ้งความเจ๊บ้าบิ่นขายหวยเกินราคา / ศาลพิพากษายกฟ้อง

5.เจ๊บ้าบิ่นฟ้องทนายษิทรา ข้อหาให้การเท็จกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ (4) / ศาลพิพากษายกฟ้อง 6.เจ๊บ้าบิ่นฟ้องหมวดจรูญ ข้อหาให้การเท็จกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ (4) / ศาลพิพากษายกฟ้อง 7.นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือนายแผน ฟ้องหมวดจรูญ ข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นรับโทษทางอาญา จากการดำเนินคดีนายแผนที่กองปราบ / จำหน่ายคดีชั่วคราวรอฟังผลคดีนายแผนถูกกองปราบดำเนินคดี 8.ครูปรีชาฟ้องหมวดจรูญว่าฟ้องเท็จ จากการที่ลุงจรูญฟ้องครูปรีชาเบิกความเท็จเรื่องขออายัดเงิน / ศาลให้จำหน่ายคดีชั่วคราวรอฟังผลคดี (1) ถึงที่สุด และ 9.ครูปรีชาฟ้องหมวดจรูญ ละเมิด เรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท / ศาลมีคำสั่งถอนอายัด

ทั้งนี้ หลังจากฟังคำตัดสินของศาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว นายษิทราได้โพสต์รูปพร้อมข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “ศาลพิพากษายกฟ้อง ป้าบ้าบิ่นไม่ใช่ผู้เสียหาย!! ไม่มีสิทธิฟ้องคุณลุงจรูญ ยอมรับเองว่าขายหวยเกินราคา การจะขายให้ใครไม่ใช่สาระสำคัญ ฟังคำพิพากษาในฐานะ ทนายจำเลย คดีสุดท้ายที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ถ่ายรูปกับพี่ๆ นักข่าวเป็นที่ระลึกหน่อย ตามทำข่าวคุณลุงจรูญกับผมเป็นจำเลย และทนายจำเลยมาร่วม 2 ปี คราวหน้าผมจะมาศาลจังหวัดกาญจนบุรีในฐานะทนายโจทก์ บ้างแล้วนะครับ”

นอกจากนี้ยังโพสต์ภาพที่ถ่ายร่วมกับเพื่อนๆ ทนายความคนดัง พร้อมระบุข้อความว่า หากเจอพวกชอบแกล้งฟ้องจะทำอย่างไร? 1.ตั้งสติ อย่าเพิ่งลนลาน ยังไม่ติดคุกทันทีที่เค้าฟ้อง 2.หาทนายที่มีความรู้ พร้อมทุ่มเทในการทำคดี แนะนำน้องทนายใหม่ไฟแรง ถึงแม้ประสบการณ์ยังไม่มาก แต่หากใส่ใจคดี หมั่นหาความรู้ ก็เป็นผลดีกว่าทนายที่ไม่ค่อยสนใจลูกความ 3.หาพยานหลักฐาน หรือชี้ช่องให้ทนายหาหลักฐานมาใช้ในศาล 4.หากไม่ได้กระทำผิด ไม่ต้องกังวลอะไร ยังไงศาลก็ให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว 5.ถ้าชนะคดีแล้ว ต้องดำเนินคดีกลับ อย่าปล่อยผ่าน ต้องให้พวกนี้หลาบจำ จะได้เป็นตัวอย่างให้คนที่คิดจะแกล้งคนอื่น ไม่กล้าทำตาม
โดยหลังจากที่ทนายษิทราได้โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีสมาชิกเข้ามากดไลค์ กดแชร์ และแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการดำเนินคดีกลับกับพวกชอบแกล้งฟ้องเพื่อให้หลาบจำ และจะได้เป็นตัวอย่างให้คนที่คิดจะแกล้งคนอื่นไม่กล้าทำตาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image