เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ศิโรจน์ แนบเนียน สารวัตรสอบสวน และ พ.ต.ท.สราวุธ แสงทอง สว.จร.สภ.คลองหลวง แถลงข่าวสื่อมวลชน
ดร.ปริญญากล่าวว่า จากรณีที่เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีจักรยานยนต์รับจ้างนอกมหาวิทยาลัยเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ มธ.ศูนย์รังสิต ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ประตูเชียงราก 1 เนื่องจากผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างไม่พอใจเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ไปเข้มงวดกวดขันให้ทำตามกฎจราจรคือไม่ย้อนศร ไม่ขับหวาดเสียว เมื่อถูกเตือนไปหลายครั้งเกิดความไม่พอใจ จึงเข้าทำร้าย รปภ.ตามที่เป็นข่าว ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง ม.ธรรมศาสตร์ ได้เข้าแจ้งความและได้หารือกับ สภ.คลองหลวง ในการดำเนินคดีและออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งประกอบด้วย 1.การดำเนินจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุ เกิดเหตุวันที่ 17 พ.ย.2562 เวลา 18.00 น.ทาง สภ.คลองหลวง ได้ไปหาตัวผู้ก่อเหตุทันที แต่ปรากฏว่ายังจับกุมไม่ได้ ทราบว่าหลบหนีไปแล้ว แต่ทาง สภ.คลองหลวง ได้ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้า ผู้ก่อเหตุมี 2 คน ซึ่งทราบชื่อทั้งหมดเพราะมีภาพถ่ายค่อนข้างชัดเจน บ้านอยู่ไหนรู้หมดแล้ว
2.ในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายอีก เพราะเป็นสะเทือนขวัญกับบุคลากรและประชาคม ม.ธรรมศาสตร์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จะได้ร่วมกับกวดขันวินมอเตอร์ไซค์ที่จะเข้ามาใน ม.ธรรมศาสตร์ จะต้องเป็นวินที่ได้รับอนุญาต และถูกต้องตามกฎหมาย ที่ทางเราพบผู้ก่อเหตุใส่เสื้อวิน แต่จริงๆ แล้วเอาเสื้อของคนอื่นมาใส่ คือเสื้อวินไม่ถูกกฎหมายอยู่ปะปนเป็นจำนวนมาก แล้วผู้ดูแลวินต่างๆ บางทีก็ไม่ได้เข้มงวดกวดขัน แล้วก่อให้เกิดคนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมาทำหน้าที่ให้บริการสาธารณะปะปนเข้ามา จึงเกิดเหตุร้ายแบบนี้ เพื่อไม่ให้เป็นไฟไหม้ฟาง จากนี้ไปจะจัดระเบียบในเบื้องต้น มธ.จะร่วมกับ สภ.คลองหลวง ตรวจจักรยานยนต์รับจ้างทุกคันที่ให้บริการรับจ้างให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะดำเนินการทันที และ 3.ในระยะยาว มธ.จะจัดระเบียบให้ถูกต้องเพื่อให้เป็นตัวอย่าง ให้คนขี่จักรยานยนต์รับจ้างที่ไม่มีปัญหา มีความสุภาพปฎิบัติตามกฎจราจร ก็ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ขณะที่คนที่ประพฤติตัวไม่ดีก็ไปทำอย่างอื่น หรือไม่ก็ถูกดำเนินคดีไป ในเบื้องต้นนี้ทาง มธ.ได้ประสานกับ อ.คลองหลวง ที่เป็นคนดูแลจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งทาง สภ.คลองหลวง ได้ทำหนังสือไปถึง อ.คลองหลวง อีกครั้งในการดูแลจักรยานยนต์รับจ้าง และแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป
พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานเหตุและมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนทาง สภ.คลองหลวง ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและทราบชื่อผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ใหทุก สภ.ตรวจสอบดำเนินการเก็บประวัติผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ทำให้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว หลังนี้พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการขอศาลจังหวัดธัญบุรี ขออนุมัติออกหมายจับคนร้ายทั้งสองคน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่นิ่งนอนใจเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญซึ่งทางมหาวิทยาลัยมีการโทรพูดคุยกันตลอดและจะเข้มงวดวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่บริเวณนี้คนที่ไม่ถูกกฎหมายหรือทำผิดต้องดำเนินการจับกุมอย่างเคร่งขัดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สภ.คลองหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้จับกุมนายณัฐวุฒิ หรืออั้ม คชทองคำ (ไว้หนวดผมยาว) อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่25/2 หมู่ 2 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และนายณัฐวุฒิ หรือบอล เนื้อทอง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 4 ต.พะเนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บร่างกายและจิตใจ ทั้งนี้จากการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนดำเนินการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งสองอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่บ้านญาติและบ้านภรรยาของผู้ก่อเหตุทั้งสอง สร้างความกดดันทางญาติจึงได้ติดต่อพาผู้ก่อเหตุทั้งสองเข้ามอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.คลองหลวง ในที่สุดสอบสวนเบื้องต้นผู้ก่อเหตุทั้งสองให้การรับสารภาพ
นายบอลและนายอั้มสารภาพว่าถูก รปภ.ต่อว่าเรื่องไม่สวมหมวกกันน็อก หลังถูกต่อว่าจึงมาบอกเพื่อนก่อนย้อนมาพร้อมนำท่อนเหล็กมาด้วยอ้างป้องกันตัวเพื่อสู้กับ รปภ. หากคุยไม่รู้เรื่องอาจมีลงไม้ลงมือ ตนไม่ได้แก้ตัว ผมต้องขอโทษสังคมและลุงด้วยและทางมหา’ลัย ผมไม่ได้ตั้งใจมันบันดาลโทสะ เนื่องจากผมใจร้อนทำเกินกว่าเหตุ มันดูรุนแรงเกินไปหลังเกิดเหตุก็ไม่ไม่ได้หนีไปไหน หลบอยู่แถวนั้นรอดูรูปคดีก่อนมามอบตัว