เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา น.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก นายเชาวลิต นิฒรรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา นายวิโรจน์ คชเลิศ วิศวกรชลประทานชำนาญการโครงการชลประทานสงขลา ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม ในพื้นที่ 16 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ตลอด 24 ชั่วโมง
น.ส.พะเยาว์ กล่าวว่า ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 20-22 พฤศจิกายน บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน และในช่วงวันที่ 23-26 พฤศจิกายน บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น คลื่นลมในอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ขณะที่ พยากรณ์อากาศ ในช่วงวันที่ 20 พฤศจิกายน มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่และมีฝนหนักบางแห่ง ช่วงวันที่ 21-23 พฤศจิกายน มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่และในช่วง 24-26 พฤศจิกายน มีเมฆเป็นมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังฝนตกหนักและชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ข้อมูลด้านสถานการณ์น้ำ ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ลุ่มน้ำคลองรัตภูมิ ลุ่มน้ำคลองนาทวี ลุ่มน้ำคลองเทพาและลุ่มน้ำคาบสมุทรสทิงพระ ตลอดจนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองหลา คลองจำไหรและคลองสะเดา ขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ การกักเก็บและการระบายน้ำยังดำเนินการได้ดี อีกทั้งทางชลประทานได้มีการเตรียมเก็บน้ำเพื่อใช้ในฤดูแล้ง เพราะอาจเกิดภาวะฝนแล้ง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณชายหาดสมิหลา เขตเทศบาลนครสงขลา เทศบาลได้ปักธงสีแดงตลอดชายหาด เนื่องจากคลื่นลมอ่าวไทยแรง อาจจะเกิดอันตรายกับผู้ที่จะลงไปเล่นน้ำ มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเฝ้าดูแล และมีการเตรียมรถพยาบาลฉุกเฉินด้วย
