เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น. ร.ต.ท.พชรพล ตันจริง รอง สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมือง จันทบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่ามีชาวบ้านไปพบผู้เสียชีวิตอยู่จมน้ำ ในอ่างปลูกบัว พื้นที่ บ้านหมู่ศาลาแดง ม.11 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี หลังรับแจ้ง ได้พร้อมแพทย์เวร รพ.พระปกเกล้าฯ และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ร่วมเดินทางตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนกึ่งไม้ชั้นเดียว ยกใต้ถุนสูง ที่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นบ้าน พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชายวัยกลางคน อยู่ในลักษณะล้มคว่ำหน้า หัวทิ่มลงไปจมอยู่ในโข่ซีเมนต์ปลูกบัว ที่มีน้ำขังอยู่เล็กน้อย สภาพสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีเทา ขณะแพทย์เวรตรวจสอบตามร่างกาย ไม่พบบาดแผลที่เกิดจากการถูกทำร้ายหรืออุบัติเหตุ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 ชม. ตรวจสอบที่หน้าบันไดบ้าน พบมีเศษท่อประปา PVC วางอยู่ 3-4 ท่อน วางพาดตรงไปยังอ่างบัว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนของ ร.ต.ท.พชรพล ตันจริง ร้อยเวรเจ้าของคดี เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายชลทิต เกษราธิกุล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/11 ม. 11 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี โดย นายสุขสันต์ ศรีเสน่ห์ อายุ 56 ปี ญาติผู้ตาย ให้การว่า ปกติ นายชลทิต พักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว เพียงลำพัง ไม่ได้ประกอบอาชีพทำงานเป็นหลักแหล่ง โดยทุกเช้า นายชลทิต ผู้ตาย จะมาหาตนเองที่บ้านทุกวัน แต่วันนี้เห็นว่าสายแล้ว นายชลทิต ยังไม่ออกมาจากบ้าน จึงเดินเข้ามาดู จนมาพบว่า นายชลทิต อยู่ในสภาพล้มคว่ำหน้าทิ่มลงไปในอ่างบัว เมื่อเข้าไปดูใกล้และเขย่าตัวก็พบว่า นายชลทิต ได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้ไปบอกเพื่อนบ้าน โทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ขณะที่ ร.ต.ท.พชรพล ตันจริง ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ทำการตรวจสอบร่อยรอย ในที่เกิดเหตุ และจากผลการชันสูตรแพทย์เวร เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุน่าจะมาจากโรคประจำตัวกำเริบ โดยในขณะที่ นายชลทิต กำลังตัด – ต่อท่อประปา เพื่อเติมน้ำในอ่างบัว เกิดเป็นลมหน้ามืด ล้มลงหน้าทิ่มลงไปในอ่างบัว ที่ยังมีน้ำขังอยู่ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานแวดล้อม ประกอบกับผลการตรวจชันสูตรของแพทย์เวรเบื้องต้น ทางญาติไม่ติดใจ สาเหตุการเสียชีวิต จึงได้มอบศพให้กลับไปบำเพ็ญกุศล ตามพิธีทางศาสนาต่อไป
