เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุภาภรณ์ แหละหมัน อายุ 50 ปี ชาวจังหวัดพัทลุง พร้อมเพื่อนบ้านที่เป็นกลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) สาขาแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง รวมตัวร้องเรียนสื่อมวลชน กรณีธนาคาร บังคับให้ลูกค้าซื้อประกันชีวิตหลังจากขอกู้เงินจากธนาคาร โดยต้องทำประกันชีวิต 1 ฉบับ ต่อ 1 สัญญาเงินกู้ กับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ในการทำประกันชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารชี้แจงเพียงว่า หากผู้กู้เสียชีวิต ก็จะสามารถหักลบกลบหนี้ที่มีกับทางธนาคาร ไม่ให้เป็นภาระกับญาติ และสมาชิกในกลุ่มที่เซ็นค้ำประกัน
นอกจากนั้นยังมีเงินเหลือให้กับทายาทอีกด้วย ในแต่ละรายจะต้องจ่ายเงินค่าประกันชีวิตอยู่ที่ 900 – 1,400 บาทต่อประกัน 1 ฉบับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินกู้ในแต่ละราย
นางสุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า ในข้อกำหนดของทางธนาคาร ชาวบ้านทุกคนที่เป็นลูกหนี้ ธสก ต่างก็ให้ความร่วมมือในการทำประกันชีวิตกับทางธนาคาร เพื่อหวังว่าหากต้องเสียชีวิตลงก่อนหน้าที่จะผ่อนชำระเงินกู้กับธนาคารแล้วเสร็จ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระกับลูกหลาน และคนในครอบครัว แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา นางสาวมะลิหยะ แหละหมัน อายุ 56 ปี พี่สาวของตนเสียชีวิตลง โดยแพทย์ระบุในใบมรณะสาเหตุการตายเพราะปอดติดเชื้อ แต่กลับไม่ได้เงินประกันชีวิตจากบริษัทที่ทำประกัน แถมในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมาทางบริษัทประกันภัย ได้มีหนังสือแจ้งบอกล้างกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองสินเชื่อในโครงการสินเชื่อสบายใจ หลังจากที่ นายธนรัตน์ แหละหมัน ซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์ ตามที่ระบุในสัญญาประกันทำเรื่องเรียกร้องขอสินไหม มรณกรรม โดยทางบริษัทชี้แจงในหนังสือว่า จากการตรวจสอบพบว่าสุขภาพของผู้เอาประกันไม่อยู่ในเกณฑ์การรับประกันของบริษัท เนื่องจากผู้เอาประกัน มีสุขภาพไม่สมบูรณ์มีประวัติเป็นโรคไตวายเรื้อรัง แต่ไม่ได้เปิดเผยความจริงนี้อันเป็นสาระสำคัญต่อการพิจารณารับประกันภัยให้กับบริษัทได้ทราบ เป็นเหตุให้สัญญาประกันภัยตกเป็นโมฆียะ ตามประมวลกฎหมายเพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865
นางสุภาภรณ์ ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ในการทำประกันของทางธนาคารเปรียบเสมือนการบังคับทำ และไม่ได้ชี้แจงในรายละเอียดปลีกย่อยให้กับประชาชนได้รับทราบ แค่เอาเอกสารมาให้เซ็นแล้วหักเงินค่าทำประกันไป จะให้ประชาชนมานั่งอ่านเอกสารทั้งหมด ที่เจ้าหน้าที่ธนาคารนำมาให้เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าลูกค้า ธ.ก.ส. เป็นกลุ่มเกษตรกร บางรายไม่ได้มีความชำนาญในการอ่านหนังสือด้วยซ้ำ เหมือนกรณีของนางสาวมะลิหยะ พี่สาวที่เสียชีวิตลง ก็ไม่ได้ทราบมาก่อนว่าหากมีประวัติป่วยเป็นโรคจะไม่ได้รับเงินค่าชดเชย และเชื่อว่าสมาชิกที่กู้เงินและถูกธนาคารบังคับทำประกันอีกหลายคนก็คงไม่ทราบในกรณีนี้ เพราะในขณะทำ ก็ไม่ได้มีการตรวจสุขภาพ และไม่ได้มีการแจ้งลงลึกในรายละเอียดของเงื่อนไขประกันชีวิต หากพี่สาวไม่ตาย ก็คงไม่ทราบว่าไม่สามารถเบิกเงินได้
อย่างไรก็ตามหลังจากพี่สาวเสียชีวิตไป ทางนางสุภาภรณ์ ก็ต้องชำระหนี้แทนพี่สาวจนกว่าจะหมด และไม่ต้องการให้สมาชิกในกลุ่มต้องมาเดือดร้อน พร้อมวอนทาง ธ.ก.ส.ทบทวนใหม่อีกครั้งในการชี้แจงรายละเอียดกับลูกค้า เนื่องจากเกษตรกรยังต้องพึ่งพา ธ.ก.ส.ต่อไป
