ตร.ปะทะโจรใต้เดือด วิสามัญดับ 2 ศพ ยึดปืน 2 กระบอก

ตร.ปะทะโจรใต้เดือด วิสามัญดับ 2 ศพ ยึดปืน 2 กระบอก

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 21 พ.ย.62 ร.ต.อ.ณรัฐสิจฒ์ เทวฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงปะทะ บริเวณพื้นที่หมู่ 1 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจึงรีบประสานหน่วยกำลังในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไปถึงเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันอันตรายและได้ให้ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวออกห่างเพื่อความปลอดภัย โดยพบว่า จุดที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สองชั้นเลขที่ 124 หมู่ 1 โดยมีเจ้าหน้าที่ทำการปิดล้อม โอบล้อมทางเข้าทั้ง 3 ด้าน เนื่องจากทราบว่าภายในบ้านมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 ราย หลบซ่อนตัวอยู่ และมีการใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดย พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ซึ่งเป็น ผบ.เหตุการณ์ได้วิทยุสั่งขอกำลังเสริมทางอากาศเพื่อกดดันคนร้าย และให้ผู้นำศาสนากับผู้ใหญ่บ้านเจรจาเกลี้ยกล่อมคนร้ายให้เข้ามอบตัว แต่ปรากฏว่าคนร้ายยังคงยิงใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด หลายชุด เป็นเวลานานอยู่พอสมวร ก่อนที่เสียงปืนจะสงบลงในเวลา 20.30 น. เมื่อตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีคนร้ายนอนเสียชีวิตภายในบ้าน 1 รายยังไม่ทราบชื่อ และยังเข้าไปเคลียร์ไม่ได้

ต่อมา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมกำลังชุดจู่โจมเดินทางมาถึง พ.อ.หาญพล ได้รายงานสถานการณ์เบื้องต้นว่า คนร้ายยังหลบอยู่ภายในบ้านแต่ยังไม่ทราบจำนวน ซึ่งสถานการณ์ยังคงตึงเครียด เนื่องจากบริเวณโดยรอบมีชาวบ้านออกมาจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยังผู้นำศาสนาและผู้ใหญ่บ้านเข้ามาเพื่อทำการเจรจาอีกครั้ง ตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก ประมาณ 30 นาที แต่ก็ไม่มีเสียงตอบใดๆ ซึ่งคนร้ายยังเหิม ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่อีกครั้งทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านต้องหมอบหาที่หลบ เจ้าหน้าที่จึงต้องกระชับวงล้อมมากขึ้น และเกิดการปะทะอีกระลอก เจ้าหน้าที่จึงได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปพร้อมกับขว้างระเบิดเสียง จำนวน 3 ลูก เพื่อให้แน่ชัดว่าคนร้ายอาจจะมอบตัวหรือถูกวิสามัญเสียชีวิต จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. เสียงปืนได้สงบลง ผลปรากฏว่าคนร้ายอีก 1 คนเสียชีวิตแล้ว และ ตรวจสอบในตัวทั้งสองรายเบื้องต้นไม่พบหลักฐาน และได้ทำการยึดอาวุธปืน ขนาด 9 มม. และ ขนาด 11 มม. ของคนร้าย จำนวน 2 กระบอกซึ่งตกอยู่ข้างศพ และได้ควบคุมตัวนายอับดุลเลาะ โต๊ะรายอ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้าน โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก นำตัวเข้าไปยังศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 เปิดเผยถึงเหตุการณ์ยิงปะทะครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากที่ได้รับแจ้งเหตุมาว่า มีผู้ต้องสงสัยได้เข้ามาหลบหนีอยู่ในพื้นที่นี้ ซึ่งเป็นบุคคลตามระบุเป้าหมายไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 และ 43 นำกำลังเข้ามาปิดล้อม ซึ่งได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เบื้องต้นคือ ได้เรียกผู้นำศาสนา รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน เข้ามาเจรจาเกลี้ยกล่อม ใช้เวลาอยู่นาน แต่คนร้ายก็ไม่ยอมออกมา และได้ทำการต่อสู้ จึงมีการยิงต่อสู้เกิดขึ้น รอเวลาถึง 2 ชั่วโมงกว่า เจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินการตามยุทธวิธีปรากฏว่าคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ราย ในที่เกิดเหตุพบปืนสั้น 2 กระบอก ขณะนี้รอตรวจสอบอีกครั้งว่าปืนทั้ง 2 กระบอกนี้จะเคยก่อคดีไหนบ้าง ส่วนจะเชื่อมโยงกับคดีถล่มยิงป้อม ชรบ. 15 ศพที่ จ.ยะลาหรือไม่นั้น ก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งเพื่อยืนยันเรื่องลายนิ้วมือที่ต้องรอผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image