เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานว่าได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวค่ำวานนี้ ( 21 พ.ย.) แจ้งว่าเกิดเหตุการณ์น่าขนหัวลุกอีกแล้ว โดยขณะที่ 4 สาวกำลังนอนเล่นอยู่ในเปลใต้ต้นไม้ข้างบ้านกลางดึก ทันใดนั้นเห็นแสงไฟขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือสีส้มปนเขียวลอยมาข้างชายคาบ้าน จึงบอกให้ญาติๆ ดู เมื่อทุกคนหันไปมองดวงไฟดวงที่กำลังลอยไปข้างหน้าช้าๆ สี่สาวพูดออกมาพร้อมกันว่า “แสงไฟอะไรมันลอยได้หรือว่าผีกระสือ”
ทันใดนั้นหนึ่งในสี่คนพูดออกมาว่า “ไปเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปเร็วเข้า หยุดก่อนอย่าเพิ่งไปขอถ่ายรูปก่อน” และทันใดนั้นดวงไฟที่เห็นลอยเข้ามาหาพวกตนทั้ง 4 จึงพากันส่งเสียงร้องลั่นวิ่งหนีเข้าบ้าน
ขณะเดียวกันสามีของหนึ่งในสี่สาวออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้นจึงบอกว่าเห็นผีกระสือ เมื่อออกมาดูอีกครั้งหนึ่งปรากฏว่าไม่พบดวงไฟประหลาดนั้นแล้ว !!
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปยังที่หมู่บ้านหนองไม้เอก ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ในช่วงค่อนรุ่ง ที่ผ่านมา (22พ.ย.) ช่วงเวลา 03.00 น. ท่ามกลางความเงียบสงัด ผู้สื่อข่าวได้ขับรถตระเวนไปตามถนนในหมู่บ้าน แต่ไม่พบแสงไฟประหลาดตามคำร่ำลือดังกล่าวแต่อย่างใด
เวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับนายถาวร วิเชียร อายุ 59 ปี ซึ่งกำลังนั่งทำด้ามไม้กวาดอยู่กับภรรยา กล่าวว่า ได้ยินคนในหมู่บ้านพูดกันว่ามีคนพบเห็นแสงไฟประหลาดจริง แต่ตนไม่เคยเห็นและไม่รู้สึกกลัวแสงไฟดังกล่าวว่าใช่แสงไฟจากผีกระสือหรือไม่ ไม่ทราบได้
จากนั้นได้สอบถาม ร.ต.ประยูร โพธิ์งาม อายุ 60 ปี กล่าวว่า คืนวานนี้ญาติตนเล่าให้ฟังเห็นดวงไฟประหลาดนั้นลอยอยู่ในที่ของตนจริงเป็นแสงไฟสีส้มปนเขียวดวงใหญ่จากนั้นหลายคนก็ได้พบเห็นดวงไฟนั้นเช่นกันรวมทั้งตนเองก็เห็นดวงไฟดวงนั้นด้วยเช่นกัน
เวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับ ผู้พบแสงไฟประหลาด หนึ่งในสี่สาว (เจ๊นุช) เล่าว่า ค่ำคืนนั้นเวลาประมาณ19.00 น. เศษ ขณะที่พวกตนและญาติๆกำลังนั่งและนอนเปลคุยเล่นกันอยู่ข้างบ้าน ทันใดนั้นสายตาของตนเองเหลือบมองเห็นแสงไฟสีส้มปนเขียวดวงใหญ่กำลังลอยอยู่เหนือชายคาบ้านจึงเรียกให้ญาติๆดูและเรียกให้สามีหยิบโทรศัพท์มาให้ถ่ายรูปดวงไฟดวงนั้นพร้อมกับตัวเองกล่าวว่า “อย่าพึ่งไป ถ่ายรูปก่อน ใช่กระสือรึป่าว”
ทันใดนั้นดวงไฟที่เห็นได้ลอยพุ่งเข้ามาหาในระยะใกล้ ด้วยความตกใจขนหัวลุกจึงพากันวงแตกกระเจิงหนีเข้าบ้าน จากนั้นในหมู่ญาติๆที่ได้ยินเสียงโวยวายจึงพากันออกมาดูและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังและมีคนเห็นแสงไฟนั้นอีกหลายคนและต่างโจทย์ขานเป็นเสียงเดียวกันว่า แสงไฟสีส้มปนเขียวนั้นเป็นแสงไฟจากผีกระสือ ทั้งนี้ก่อนหน้าเร็ว ๆ นี้มีการพบและไลฟ์สดผ่านโลกออนไลน์ที่หมู่บ้านคลองฟันปลาที่อยู่ไม่ห่างกัน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดหนองไม้เอกขอพบพระกฤษฎา ธีระสันโต รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองไม้เอกกล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ19.00น.มีพระลูกวัดได้ออกไปท่องหนังสือภายในบริเวณวัดที่ติดกับบ้านญาติโยม
ขณะนั้นพระรูปดังกล่าวได้นำไฟฉายส่องดูนกที่ร้องอยู่บนต้นไม้ (เป็นไฟฉายแบบ LED แรงสูง) ทำให้แสงไฟกระทบใบไม้สะท้อนไปเป็นแสงไฟต่างๆตามที่ชาวบ้านเห็น และได้โจทย์ขานกันไปต่างๆนาๆ
ในเวลาต่อมาพระรูปดังกล่าวก็ได้กลับมาสรงน้ำเพื่อจะจำวัดขณะนั้นได้มีญาติโยมกลุ่มหนึ่งขับรถ จยย.เข้ามาในบริเวณวัดและได้โจทย์ขานต่างๆนาๆโดยไม่ได้สอบถามพระในวัดแต่อย่างใด แล้วพากันไปร่ำลือพบแสงประหลาดที่นั่นที่นี่
และกล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางวัดและญาติโยมส่วนใหญ่รู้สึกกังวลใจ เนื่องจากทางวัดหนองไม้เอกจะมีงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตขึ้นระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-2 ก.พ.63 ปีหน้าจึงใคร่ขอแก้ข่าวลือเรื่องพบเห็นแสงไฟประหลาดว่าไม่ใช่กระสือแต่อย่างใดแต่เป็นแสงไฟจากไฟฉายของพระลูกวัดที่เข้าไปท่องหนังสือในป่าข้างวัด และฝากประชาสัมพันธ์ญาติโยมและสาธุชนทั้งหลายให้ทราบโดยทั่วกัน
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักปฏิบัติธรรมปู่ฤาษีเมตตามหาลาภ (หลวงพ่อรวย)บ้านหนองไม้เอกพระเกจิอาจารย์ชื่อดังได้กล่าวว่า แสงไฟที่ญาติโยมเห็นอยากจะเตือนสติแก่ญาติโยมทั้งหลายว่าแสงไฟที่เห็นไม่ใช่เกิดจากภูติผีปีศาจหรือผีกระสือแต่อย่างใด
…