สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เกิดอุบัติเหตุรถกระบะขนคนงานตัดไม้ยูคาลิปตัสเต็มคัน ถูกรถกระบะที่วิ่งแข่งกันมาบนถนนหลวงเสียหลักชนท้าย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย เหตุเกิดบนถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ขาล่อง ฉะเชิงเทรา หน้าร้านกิจประสงค์ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ต่อมา ร.ต.อ ประยงค์ หม่อมวงศ์สุวรรณ รองสารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.สระบัว อ.กบินทร์บุรี รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีแดง ยี่ห้อดัทสัน ทะเบียน บค 3026 ชลบุรี ถูกชนท้ายได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อนางนารอน สนิทพล อายุ 47 ปี ชาว ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กด 701 กรุงเทพมหานคร คู่กรณี จอดอยู่ถัดจากที่เกิดเหตุราว 30 เมตร สภาพกระโปรงหน้ายุบ หลังเกิดเหตุคนขับได้เปิดประตูหนีไปตามที่เสนอก่อนหน้านี้
ย้อนอ่าน : ทราบชื่อผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บรถกระบะที่ถูกชนท้ายแล้ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นายธวัชชัย แสนวันนา อายุ 28 ปี คนขับรถกระบะสีแดง ลูกชายผู้เสียชีวิต ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ได้ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าว โดยเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถคันดังกล่าวกลับจากทำงานรับจ้างในสวนยูคาฯ มาถึงที่เกิดเหตุรถของตนได้วิ่งมาด้วยความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. เพราะรถสภาพเก่า ทันใดนั้นได้ยินเสียงแม่ตะโกนบอกพ่อว่า “ดูรถสองคันนั้นมันแข่งกันมา” และยังไม่ทันขาดเสียง แม่ก็ได้กอดหลานซึ่งเป็นลูกชายของตนเอาไว้แน่น ขณะนั้นตนเองได้มองกระจกข้าง เสี้ยววินาทีนั้น รถกระบะสีดำได้วิ่งมาชนท้ายรถกระบะของตนอย่างแรง จนรถเสียหลักตะแคงตกท้องร่อง จนเป็นเหตุให้แม่และพ่อของตนพร้อมด้วยญาติๆ ที่นั่งมาด้วยกันกระเด็นตกรถบาดเจ็บ 8 ราย และเสียชีวิต 1 ราย คือแม่ตนเอง
นายธวัชชัยกล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้เห็นคนขับรถคู่กรณีเปิดประตูรถวิ่งหนีไปอีกฝั่งหนึ่ง ตนจึงวิ่งตามแต่ไม่ทัน จึงวิ่งกลับมาดูพ่อ แม่ และญาติๆ ที่นอนโอดโอย และร้องไห้ระงม และทราบว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ต่อมากู้ภัยได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี หลังเกิดเหตุทางญาติได้นำศพแม่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหลังเขา ใน ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
“ทางคู่กรณีได้ติดต่อให้ญาติมาช่วยเหลือค่าทำศพ 10,000 บาท ตนอยากให้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ รถของตนไม่มี พ.ร.บ.คุ้มครองทางรถยนต์ ต้องไปกู้เงินเพื่อนบ้าน 20,000 บาท มาจัดงานศพแม่ก่อน และจะต้องหาเงินอีกจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาญาติๆ อีก 8 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ
“อยากฝากถึงคู่กรณี ควรนึกถึงสภาพจิตใจของครอบครัวตนบ้าง ไม่ใช่หนีหน้าเงียบหายไปแบบนี้ คุณควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษ อยากถามกลับว่า ขณะเกิดเหตุคู่กรณีหนีไปปะปนอยู่กับประชาชนที่ยืนดูนับ 20 คน ทนดูความสูญเสียของครอบครัวตนได้อย่างไร? ขณะนั้นตนยังมองไปหาคู่กรณี ทั้งที่ร้องไห้ฟูมฟาย อยู่ในที่เกิดเหตุราวครึ่งชั่วโมงได้อย่างไร? เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญพ่อไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ. และได้รับการประสานผ่านประกันภัยของคู่กรณี บอกว่าจะชดใช้ตาม พ.ร.บ. แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าวันใด” นายธวัชชัยกล่าว
นายธวัชชัยกล่าวต่อว่า ตั้งแต่แม่เสียไป 2 คืน แม่มาเข้าฝันว่า วิญญาณยังอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมบอกว่าหนาว อยากกลับบ้าน แต่กลับไม่ได้ ตนคิดถึงแม่มาก อยากให้ดวงวิญญาณของแม่รับรู้ว่าไม่ต้องห่วง หลังจากเสร็จงานศพจะไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณอีกครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้คืนแรกทางญาติไปทำพิธีนำวิญญาณกลับบ้านแล้ว แต่ยังฝันเห็นวิญญาณแม่อยู่ที่เดิมอยู่ ไม่ไปไหน
“อยากฝากเป็นข้อคิดถึงคนทั่วไป ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ คู่กรณีไม่ควรหลบหนี ควรจะมีน้ำใจบ้าง ในกรณีของแม่ตน รู้สึกปวดร้าวที่ใจลึกๆ ที่เห็นคู่กรณีหนีไปยืนปะปนดูคนตาย คนเจ็บเป็นครึ่งชั่วโมง จิตใจทำด้วยอะไร” นายธวัชชัยกล่าว
