มท.-เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ประชุมมอบนโยบายการป้องกันอุบัติภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่แก่คณะกรรมการศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดกระบี่ โดยมี พ.ต.ท.หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 100 คน เพื่อเป็นการกำชับและขอความร่วมมือจังหวัดกระบี่ ให้มีความเข้มงวดขวดขันอย่างจริงจังเหมือนที่ผ่านมา โดยยึดแนวทางในการปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายทุกประเภทในการใช้รถใช้ถนน ยึดเป็นแนวทางเดียวกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหา เพื่อลดอุบัติเหตุในช่วงดังกล่าวให้น้อยที่สุด
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นการมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทั้งทางถนนและทางทะเล ซึ่งเริ่มฤดูกาลท่องเที่ยวของฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดกระบี่มีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาจำนวนมากขึ้น ส่วนการดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนยังมีตัวเลขที่มีความสูญเสียชีวิตจำนวนสูงมาก ตนได้พยายามเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อมอบแนวนโยบายในการปฏิบัติและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงต้องออกมาดูการเตรียมความพร้อมต่างๆ ส่วนกำชับจังหวัดแต่ละจังหวัดมีแผนงานอยู่แล้วที่จะปฏิบัติ เพียงแต่ว่าทำอย่างไรให้ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพราะว่าเวลาเกิดอะไรขึ้นมากระทบกับภาพรวมของจังหวัดและภาพรวมของประเทศ การที่จะต้องดูแลในทุกมิติเป็นเรื่องจำเป็น ถือว่าการขับเคลื่อนความปลอดภัยบนท้องถนถนและทางทะเล ของนักท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
นายนิพนธ์ กล่าวว่า การตั้งเป้าของกระทรวงมหาดไทยช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ไม่ได้ตั้งเป้าแต่พยายามขับเคลื่อนให้เป็นไปตามเกณฑ์ก่อน จะไม่ทำเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่และช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต้องมีตลอดทั้งปีอย่างต่อเนื่อง โดยปกติมีการเสียชีวิตอยู่ทุกวัน ซึ่งบริษัทกลางจากรถได้รายงาน 40 – 50 คน ถือเป็นเรื่องปกติทุกวัน
“ฉะนั้น จะต้องลดการสูญเสียชีวิตบนท้องถนนลงให้ได้ ให้เอาเกณฑ์ของสหประชาชาติ ที่กำหนด 1 แสนคนจำนวนประชากรไม่ควรเสียชีวิตเกิน 16 คน นี้คือ อัตราส่วนเอาอัตราส่วนนี้ไปเทียบดูก็แล้วกัน จังหวัดใดที่เกินเกณฑ์นี้อยู่เมื่อเทียบกับอัตราส่วนประชากรแล้ว ก็พยายามถือเกณฑ์ของสหประชาชาติที่กำหนดเอาไว้ นี้คือเป้าหมายที่จะเดินไปสู่ให้ได้ เพราะประเทศไทยในขณะนี้ยังเกินเกณฑ์นี้อยู่ จึงมาขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันเพื่อที่จะให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สหประชาชาติกำหนดให้ได้” นายนิพนธ์ กล่าว
