น้ำโขงที่บึงกาฬเข้าขั้นวิกฤต อยู่ระดับ 1 เมตรกว่า กระทบแพขนานยนต์เดินเรือไม่ได้

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงเข้าขั้นวิกฤต โดยเช้าวันนี้ระดับน้ำบริเวณจุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ ม.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เหลือเพียง 1.65 เมตร ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบหลายปี เมื่อเทียบกันช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านๆมา ระดับน้ำที่ลดลงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการแพขนานยนต์ที่บรรทุกขนส่งสินค้าข้ามไปมาระหว่างเมืองบึงกาฬ และเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว จนไม่สามารถเดินเรือได้ โดยเฉพาะที่บริเวณท่าเทียบเรือของบริษัทวงศ์มิมิต เจ้าของกิจการต้องปิดท่าเรือชั่วคราว จากภาพที่เห็นในมุมสูง จะทำให้เห็นว่าแพขนานยนต์ที่ใช้บรรทุกรถยนต์ ต้องจอดติดสันดอนทรายอยู่กลางแม่น้ำโขง ซึ่งในบริเวณนี้ไม่สามารถเดินเรือได้ เจ้าของแพ ต้องขนย้ายแพขนานยนต์ขึ้นไปอยู่ในจุดที่สามารถเดินเรือได้ ซึ่งไกลกว่าจุดเดิมราว 1 กิโลเมตร

ขณะเดียวกันแม่น้ำโขงที่บริเวณหน้าด่านศุลกากรบึงกาฬ ระดับน้ำลดลงจนเกิดสันดอนทรายกลางแม่น้ำโขง ขนาดความกว้างกว่า 400 เมตร ผู้ประกอบการเรือโดยสารข้ามฝากไทย-ลาว ไม่สามารถแล่นเรือข้ามไปมาได้ ต้องแล่นเรืออ้อมสันดอนทรายไกลกว่า 2 กิโลเมตร และยังต้องช่วยกันทำป้ายสีต่างๆลงไปปักในแม่น้ำโขง เพื่อทำเป็นสัญลักษณ์ว่าตรงจุดไหนเป็นร่องน้ำลึก จุดไหนที่ตื้นเขิน เป็นการเตือนคนขับเรือให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ ซึ่งระยะทางที่เดินเรือไกลขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารทั้งชาวไทย และชาว สปป.ลาว ได้รับความเดือดร้อน ในขณะที่ราคาค่าโดยสารต้องเก็บเท่าเดิม ซึ่งไม่สามารถเพิ่มขึ้นเองได้ จะต้องประชุมร่วมกันทั้ง 2 ฝั่งไทยลาวเสียก่อน ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีก 1-2 เท่าตัวในแต่ละวัน

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image