“สมศักดิ์” เซ่นวิญญาณ “โทโมโกะ” เผยคดีคืบ 80% พร้อมคำยืนยันจากพยานปากเอก

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่สำรวจพร้อมวางดอกไม้เซ่นไหว้บริเวณจุดเกิดเหตุกรณี น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ถูกฆาตกรรมบริเวณวัดสะพานหิน ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเป็นคดีพิเศษ เมื่อปี 2556 ซึ่งคดีนี้เป็นที่สนใจของทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่น หลังคดีนี้ผ่านมาเกือบ 12 ปี

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ตรวจหลักฐานที่มี ซึ่งเป็นกางเกงของ น.ส.โทโมโกะ ที่สวมใส่เมื่อประมาณปี 2552 หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ ว่ามีของผู้ต้องสงสัยหรือไม่ ขณะนั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีการตรวจหาดีเอ็นเอยังไม่ก้าวหน้า กระทั่งปัจจุบันทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ใช้น้ำยาตัวใหม่ เพื่อมาตรวจหาดีเอ็นเอที่ขอบกางเกงของ น.ส.โทโมโกะ อีกรอบ จนพบดีเอ็นเอของ น.ส.โทโมโกะ และดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัย ที่เป็นคนงานในเล้าหมูแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 900 เมตร และผู้ต้องสงสัยรายนั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2553 โดยศพของผู้ต้องสงสัยถูกเผาในเมรุด้วยความร้อน 900 องศาเซลเซียส ทำให้ไม่สามารถใช้เถ้ากระดูกมาสกัดดีเอ็นเอได้ จึงต้องใช้ตัวอย่างจาก พี่สาว 2 คน ของผู้ต้องสงสัย และบุตรชาย อายุ 17 ปี ของผู้ต้องสงสัย เพื่อมาตรวจหาสารดีเอ็นเอ ก่อนนำมาเทียบกับดีเอ็นเอของคนร้าย ที่พบบนขอบกางเกงของ น.ส.โทโมโกะ

Advertisement

“มั่นใจว่าจะสามารถปิดคดีได้หลังผลตรวจสอบดีเอ็นเอยืนยันให้ชัดเจนจนแน่ใจเสียก่อน และยืนยันกับครอบครัวของ น.ส.โทโมโกะ และรัฐบาลญี่ปุ่นว่า ประชาชนคนไทยทุกคนตลอดจนรัฐบาลไทย จะนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ก่อนที่คดีจะขาดอายุความแน่นอน” นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า กรณีนี้ได้มีพยานรู้เห็น คือ นายสงบ ทองหร่อง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/5 ม.6 ต.วังทองแดง อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุ 3 วัน นายสงบได้ไปพบปะกับผู้ต้องสงสัย ตามประสาคนคุ้นเคยกับผู้ต้องสงสัย แต่เห็นมีลักษณะอาการเหมือนหลบหนีอะไรบางอย่าง จึงถามว่าไปทำอะไรมา และผู้ต้องสงสัยตอบว่าไปแทงฝรั่งตาย และนำมีดสปาต้าที่ซ่อนไว้มาให้ดู ส่วนภรรยาผู้ต้องสงสัยก็บอกเช่นกันว่า เห็นสามีนำของบางอย่างใส่ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปฝังไว้ที่ถนนลูกรัง แต่ปัจจุบันได้ปรับเป็นถนนลาดยางแล้ว โดยในช่วงนั้นผู้ต้องสงสัยเล่าว่าจะไปหาเห็ด แต่ไปเจอผู้เสียชีวิตจึงหวังชิงทรัพย์ แต่พลาดพลั้งมือจนแทงเสียชีวิตดังกล่าว แต่เวลาก็ล่วงเลยมาหายปีแล้ว ก็คงต้องขึ้นอยู่กับดีเอสไอ และพยานหลักฐานและการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญคือ ดีเอ็นเอ ของผู้ต้องสงสัยว่าจะตรงกันหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image