แกนนำสิบล้อใต้ถึงประจวบฯแล้ว นัดรวมตัวประท้วงตำรวจ แฉจัดจนท.ขนส่งตั้งด่านสกัดอื้อ

แกนนำสิบล้อใต้เดินทางถึงประจวบฯข้องใจเจ้าหน้าที่ขนส่งตั้งด่านตรวจ 2 จุดหวังสกัดก่อนรวมตัวหน้าโรงพักสามร้อยยอด

เมื่อเวลา 07.30 น. .วันที่ 26 พฤศจิกายน พล.ต.ต .สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มผู้ขับรถบรรทุกสิบล้อในจังหวัดภาคใต้ นัดรวมตัวกันที่ สภ.สามร้อยยอด ในเวลา 100.00 น. วันนี้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และนำทนายความยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ขับรถบรรทุกชาว จ.ชุมพร ครอบครองยาบ้า 1 เม็ด ภายในรถบรรทุกสิบล้อ แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ล่าสุดช่วงเช้าจากการติดตามหาข่าวยังไม่มีรถบรรทุกสิบล้อจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ในลักษณะผิดปกติ โดยเฉพาะด้านหน้า สภ.สามร้อยยอด แต่มีการวางกำลังเจ้าหน้่าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย และยอมรับว่ารถบรรทุก ทุกคันต้องผ่านถนนเพชรเกษม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้

“หากมีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้กับผู้ต้องหา ได้จัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว และสามารถชี้แจงได้ จากการตรวจพิสูจน์ด้วยหลักนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีการเก็บ ดีเอ็นเอ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านในวันเกิดเหตุทุกนายเพื่อเทียบกับ ดีเอ็นเอ ของผู้ต้องหาและบุคคลอื่นภายในรถ รวมทั้งหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง สำหรับในอนาคตการปฏิบัติหน้าที่ ขณะตั้งด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องมีกล้องบันทึกภาพติดไว้ที่ศรีษะ หากมีปัญหาสามารถตรวจสอบได้ทันที” พล.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าว

นายสุรเชษฐ์ แท่นทอง อายุ 33 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช แอดมินเพจ “กลุ่มสายหวานด่วน vip ”ที่มีสมาชิกเป็นคนขับรถบรรทุกสิบล้อภาคใต้กว่า 2,000 คน กล่าวว่า ขณะนี้ได้เดินทางถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์แล้ว สำหรับรถบรรทุกสิบล้อได้ทยอยเดินทางไปแสดงพลังที่ สภ.สามร้อยยอด โดยจอดรอที่ตลาดปราณบุรี และตลาดสามร้อยยอด แต่ล่าสุดได้รับแจ้งมีเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจ บนถนนเพชรเกษมจากภาคใต้ ขาเข้า กทม.ที่ด้านหน้า สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก และ ด้านหน้า สภ .ปราณบุรี ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เพื่อตรวจรถบรรทุกสิบล้อบนถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ซึ่งมีเจตนาตั้งด่านเพื่อตรวจสอบ พร้อมสกัดรถบรรทุกไม่ให้ไปรวมตัวหน้า สภ .สามร้อยยอด

Advertisement

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากเครือข่ายฯว่าจะยอมรับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปจ่ายค่าปรับ ตามอัตราที่กำหนด หากพบรถมีปัญหาอุปกรณ์ส่วนควบผิดกฎหมาย หลังจากนั้นจะร่วมกันแฉเบื้องหลัง การทำงานของเจ้าหน้าที่ขนส่งที่ตั้งด่านเพื่อมีเป้าหมายรับส่วนแบ่งค่าปรับ โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ระยะทางยาว 200 กว่ากิโลเมตร มีการใช้วิธีการที่หลากหลายพิสดาร สามารถหารายได้จากค่าปรับเดือนละกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนั้นในหลายจังหวัดจะมีปัญหาจากการต่อทะเบียนรถประจำปีโดย ไม่ต้องนำรถไปตรวจตามมาตรฐานที่สำนักงานขนส่ง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
ด้านแหล่งข่าว ระบุว่า การต่อทะเบียนมีกระบวนการหากินร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีนายหน้าจากบริษัทไฟแนนซ์รับจ้างดำเนินการให้ทั้งหมด มีการเก็บเงินคันละ 500 -1,000 บาท โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสภาพ ทำให้รถสิบล้อส่วนใหญ่ที่ไม่ผ่านการตรวจสภาพและจะต้องถูกจับกุม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้รางวัลส่วนแบ่งจากค่าปรับ ขณะที่รถสิบล้อบางกลุ่มที่มีการซื้อสติกเกอร์สะท้อนแสงจากหน่วยงานแห่งหนึ่งติดเป็นสัญลักษณ์ไว้ที่ป้ายทะเบียนหรือด้านหน้ารถ เพื่อแสดงให้เห็นชัดเจนและได้รับการยกเว้นลบภาพออกจากระบบ ไม่ต้องจ่ายค่าปรับหากมีการตั้งกล้องจับความเร็ว ส่วนรถป้ายแดงไม่ต้องนำรถไปตรวจสภาพเพื่อทะเบียน มีการจ่ายเงินนอกระบบ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image