หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้เลื่อนการแบนสารเคมีพาราควอต คลอร์ไพริฟอส ออกไปอีก 6 เดือน จากเดิมจะเริ่มยกเลิกการใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ และจำกัดการใช้สารไกลโฟเซตนั้น
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน น.ส.ฌัชชยา นามกร อายุ 41 ปี เกษตรกรชาว ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว สมาชิกเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ จ.ตรัง กล่าวว่า ความจริงแล้วส่วนตัวและสมาชิกในกลุ่มเกษตรอินทรีย์ จ.ตรัง เรียกร้องให้มีการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ดังกล่าวมายาวนาน และยังอยากเรียกร้องต่อไป เพราะว่าเกษตรกรอินทรีย์ปลูกพืชผักทุกชนิดปลอดสารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง แต่ทุกวันนี้ถูกลิดรอนสิทธิจากเกษตรกรที่ใช้สารเคมีมาก โดยเกษตรกรอินทรีย์ต้องป้องกันตัวเอง ต้องขุดคู ขุดร่องน้ำ ทำเป็นแนวเขตป้องกันไม่ให้สารเคมีจากแปลงข้างเคียงที่เขายังใช้สารเคมีเข้ามา ทั้งนี้ ถ้าเป็นแค่มาตรการจำกัดการใช้เชื่อว่าเกษตรกรไทยทำไม่ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่มีหัวใจอินทรีย์ ที่อยากทำเกษตรแบบอินทรีย์ เพราะนอกจากเขาผลิตอาหารแบบไม่ปลอดภัยแล้ว ก็ทำให้เกิดการลิดรอนสิทธิของคนที่พยายามจะผลิตอาหารที่ปลอดภัยด้วย จึงยังเรียกร้องให้มีการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิดต่อไป
“จากการติดตามข่าวสารทำให้เกิดความกังวลว่า แนวโน้มอาจจะมีการกลับมาใช้สารเคมีเหล่านี้ได้เหมือนเดิม เพราะยังมีความพยายามจากบางฝ่ายไม่ให้มีการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิดดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ใน จ.ตรัง ยังยืนยันที่จะต่อสู้เรียกร้องต่อไปให้มีการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิดอย่างถาวรต่อไป ทั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเพื่อตัวเอง แต่เพื่อทุกคน และคนไทยทั้งหมดจะได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย ซึ่งถึงเวลาแล้วที่สุขภาพของคนไทยจะต้องคุณภาพชีวิตที่ดีมากกว่านี้” น.ส.ฌัชชยา กล่าว
