ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในพื้นที่หลายอำเภอ จ.นครพนม ถูกขโมยถังก๊าซหุงต้มแอลพีจี และได้ออกมาร้องเรียนให้ตำรวจเร่งแก้ปัญหา โดยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีนั้น
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่า ยังคงมีชาวบ้านผู้เสียหายถูกแก๊งขโมยถังก๊าซหุงต้มแอลพีจีในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.นครพนม ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อเรียกร้องให้ทางหน่วยงานตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมเตือนภัยสังคมไปยังบรรดาผู้ค้าตามชุมชนหมู่บ้านไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.นาแก อ.เรณูนคร และ อ.ธาตุพนม มีผู้เสียหายถูกแก๊งตระเวนลักขโมยถังแก๊งหุงต้มไปก่อเหตุและตกเป็นเหยื่อแล้ว 3 ราย และมีผู้เสียหายในพื้นที่ อ.เรณูนคร เคยนำภาพวงจรปิดที่บันทึกพฤติกรรมคนร้ายเข้าไปก่อเหตุในร้านค้าขายของชำ ได้ก๊าซไป 2 ถัง และมีพฤติกรรมคล้ายกันทุกจุด เชื่อว่าเป็นคนเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
นางเลี้ยง อุพร อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ที่ 4 บ้านเเสนพันท่า ต.เเสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นภรรยาของ นายสมศักดิ์ อุพร อายุ 73 ปี นายก อบต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยพฤติกรรมสุดแสบหลังตกเป็นเหยื่อว่า ปกติที่บ้านเปิดร้านขายของชำ รวมถึงรับเปลี่ยนก๊าซหุงต้ม จากนั้นได้มีชายรูปร่างสูงท้วม อายุประมาณ 40-45 ปี แต่งตัวคล้ายพ่อค้าขายของตลาดนัด มีผ้ากันเปื้อนคล้องคอ ขับรถเก๋งคันสีขาวมาจอด และสอบถามต้องการแลกเปลี่ยนก๊าซหุงต้มแอลพีจี อ้างว่าเป็นพ่อค้าตลาดนัดพ่อค้าคลองถม ต้องการเปลี่ยนถังก๊าซ เพราะก๊าซที่นำมาปรุงอาหารขายใกล้หมด จึงขอแลกจำนวน 2 ถัง แต่ขอนำถังก๊าซใหม่ไปเปลี่ยนที่ตลาด แล้วจะนำถังเปล่ากลับมาคืน และจะนำเงินมาจ่ายภายหลัง
“ซึ่งทางเจ้าของร้านไม่ทันเอะใจ หลงเชื่อด้วยความซื่อ ไม่คิดว่าจะมีใครกล้ามาใช้กลอุบายขโมยถังแก๊งลักษณะนี้ จนกระทั่งยอมให้นำถังก๊าซไป 2 ถัง โดยยังไม่ได้จ่ายเงินราคาแลกเปลี่ยนถังละ 450 บาท แต่พอไปได้สักพัก ชายดังกล่าวไม่กลับมาเลย จึงเอะใจ พอไปตามดูที่ตลาดนัด แต่ไม่พบจึงรู้ว่าถูกหลอก และเชื่อว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพ จึงได้ไปแจ้งตำรวจไว้ที่ สภ.หลักสิลา ท้องที่รับผิดชอบ แต่ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวโจรแสบได้ จึงออกมาร้องทุกข์ผ่านสื่อให้ตำรวจเร่งติดตามตัวไม่ให้ก่อเหตุซ้ำอีก ส่วนมูลค่าความเสียหาย เป็นเงินประมาณ 5,000 บาท ถ้าแลกรวมถังราคาถังละประมาณ 2,500 บาท ต้องเสียรู้และยังเสียเงินอีก” นางเลี้ยง กล่าว
