สถานการณ์ชายแดนด้านสังขละบุรี เริ่มกลับมาตรึงเครียดอีกครั้ง เมื่อทหารมอญสั่งให้ชาวบ้านบ้านบ่อญี่ปุ่น อพยพออกจากหมู่บ้าน เพื่อเปิดทางปฏิบัติการยึดหมู่บ้านคืนจากทหารพม่า
จากเหตุการณ์การยิงปะทะกัน ระหว่างชนกลุ่มน้อยมอญและทหารเมียนมาที่ผนึกกำลังกับกองกำลังพิทักษ์ชายแดนของกองทัพเมียนมา (BGF) บริเวณบ้านบ่อญี่ปุ่น ในพื้นที่ อ.พญาตองซู จ.ซาเองเซจี ประเทศเมียนมา เมื่อช่วงสายของวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่การปะทะอยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 2 กิโลเมตร ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จนส่งผลให้มีชาวมอญจากบ้านบ่อญี่ปุ่นและบ้านไร่อ้อย หนีตายข้ามชายแดนเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยกว่า 1,000 คน และส่งผลให้ทางการไทยต้องให้ความช่วยเหลือโดยจัดที่พักพิงชั่วคราว ที่บริเวณบ้านซองกาเลีย หมู่ที่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และบริเวณวัดเตาถ่าน หมู่ที่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ภายใต้การดูแลของฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี และการช่วยเหลือจากเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี และกิ่งกาชาดอำเภอสังขละบุรี
หลังเกิดเหตุกองกำลังทหารเมียนมา และกองกำลังพิทักษ์ชายแดนพม่า (กะเหรี่ยง BGF) ได้เข้ายึดพื้นที่บ้านบ่อญี่ปุ่นไว้ทั้งหมด และตั้งกองกำลังแนวหน้าที่กองร้อยที่ 5 ของกองกำลังทหารมอญ (MNLA) ที่ยึดได้ ส่วนทหารมอญได้ถอยล่นออกจากหมู่บ้าน ไปอยู่ตามชายป่า เพื่อรอกำลังสนับสนุน จากกองร้อยปะไลตุนพ่าย ระหว่างรอผลการเจรจา ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่ายได้เปิดเจรจากันที่เมืองมะละแหม่ง โดยมีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่จากกรุงเนปิดอว์จะเดินทางลงพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และลงพื้นที่บ้านบ่อญี่ปุ่น เพื่อตรวจสอบพื้นที่บริเวณบ้าน 2 หลัง ที่พม่าอ้างว่าสร้างรุกล้ำเข้าไปในดินแดนพม่า
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน ชาวบ้านบ่อญี่ปุ่นได้หนีตายออกจากหมู่บ้านอีกระลอก โดยใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ บรรทุกสิ่งของเครื่องใช้และผู้สูงอายุ โดยใช้เส้นทางแท้งน้ำ อบต.-บ้านน้ำเกิ๊ก จากการสอบถามชาวบ้านที่หนีออกมา ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลา 12.30 น. ทางกองทัพมอญได้ส่งข่าวให้ชาวบ้านที่ไม่ได้อพยพ รีบอพยพออกจากหมู่บ้าน เนื่องจากทหารมอญจะเปิดปฏิบัติการเข้ายึดหมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น คืนจากทหารพม่า แต่หากชาวบ้านคนใดไม่ยอมอพยพ ถ้าเกิดมีเหตุปะทะกันระหว่างกำลังทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะไม่มีการรับผิดชอบใดๆ
ทั้งนี้จากการข่าวเชิงลึกพบว่า ตลอดระยะเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งพม่าและมอญ มีการเสริมกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อชิงความได้เปรียบ
ขณะที่ พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ได้สั่งการให้มีการเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์การปะทะกันขึ้นอีก พร้อมสั่งตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนตั้งแต่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ไปจนถึงบ้านน้ำเกิ๊ก เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย
