เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อย ตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม (นรข.) มอบหมายให้ นาวาเอก ณัฐพงศ์ พรรณรายน์ ผบ.นรข.เขตนครพนม พร้อมด้วย นาวาโท สิทธิศักดิ์ สิทธิกุล ผบ.หมู่เรือที่ 3 รักษาราชการหัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร พ.อ.ยุทธนา มหาวัน รองผู้บังคับการ กองบังคับการ ควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กรมทหารราบที่ 3 พ.อ.ตระกูล ไทยสมัคร ฝ่ายเสนาธิการ ประจำกองบัญชาการควบคุม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองทัพภาคที่ 2 พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และชุดสืบสวนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด แถลงจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยยึดยาบ้าล็อตใหญ่ และจับกุมนายวีรณัฐ สุธรรมวงศ์ อายุ 34 ปี ชาว ต.นาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 874,000 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 1,500 กรัม รถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีดำ ทะเบียน 6กธ 4475 กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้กระทำความผิด
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ นรข.สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาจาก สปป.ลาว ในพื้นที่ชายแดน จ.นคพรนม เนื่องจากช่วงนี้ระดับน้ำโขงแห้ง บวกกับใกล้เทศกาลปีใหม่ ขบวนการค้ายาเสพติด จึงพยายามลำเลียงลักลอบยาเสพติดมาพักรอจำหน่าย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ะดมกำลังสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมของกลาง ขณะขับรถยนต์ดังกล่าวมุ่งหน้าไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 212 ก่อนสกัดจับกุมตรวจค้นได้ในพื้นที่บ้านด่าน ต.สามแยก อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
ตรวจค้นพบของกลางยาบ้า บรรจุในกระสอบปุ๋ยซุกซ่อนในรถ ส่วนคนขับจอดทิ้งรถหนี แต่สามารถจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งที่นั่งมาในรถได้ ควบคุมตัวมาสอบสวนขายผล ส่วนผู้หลบหนีรู้ตัวแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากเพื่อนร่วมแก๊งให้นั่งรถไปด้วย เพื่อนำยาบ้าไปส่งที่ จ.อุบลราชธานี โดยไม่รู้รายละเอียด เพียงนั่งรถไปเป็นเพื่อน ซึ่งปกติตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ยอมรับว่าเสพยาบ้าจึงถูกชักชวนไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ พร้อมจะเร่งสอบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเชิงลึก เชื่อว่ามีการลักลอบนำยาบ้าดังกล่าวมาพักไว้ ก่อนนำไปพักอีกทอดที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อส่งต่อไปขาย ซึ่งยาบ้าดังกล่าวมีมูลค่าเม็ดละไม่ต่ำกว่า 100 บาท รวมมูลค่ายาบ้าไม่ต่ำกว่า 8 ล้านบาท ส่วนยาไอซ์ 100 กรัม เป็นเงินประมาณ 50,000 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 750,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการดำเนินคดีต่อไป และเพิ่มมาตรการเข้มในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีการลักลอบเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม ในช่วงเดือนเดียว มีการตรวจยึดยาบ้ามากกว่า 6 ล้านเม็ด กัญชามากกว่า 3 ตัน
