มือฆ่า 2 ครูสุดโหดใช้บีบีกัน-กระสุนจริงยิงใส่ ก่อนจ้วงซ้ำหวังชิงทรัพย์

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญฆ่าโหดนายอโรชา สุภานิชย์ หรือครูเอ็ม สอนวิชาฟิสิกส์ อายุ 33 ปี และ น.ส.ปรียาภรณ์ เพียรงาม หรือครูแนน สอนวิชาคณิตศาสตร์ อายุ 33 ปี สองสามีภรรยาครูโรงเรียนอัสสัมชัญระยอง เสียชีวิตภายในห้องนอนของบ้านเลขที่ 111/34 หมู่บ้านพรธนา  ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ทับมา อ.เมืองระยอง  เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ได้เข้าเก็บหลักฐานจนได้เบาะแสผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่า

อ่าน เปิดคำสารภาพ มือฆ่า 2 ครู อ้างไปทวงหนี้เก่า ตร.ภาค 5 คุมตัวส่งทำแผนที่ระยอง

จึงยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับนายศุภกฤต  สุจาศรี หรือ ไตเติ้ล อายุ 22 ปี ชาว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อชิงทรัพย์ สืบทราบว่านายศุภกฤตได้ติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ  ทะเบียน 6 กผ 9678 กรุงเทพมหานคร ที่ครูเอ็มโพสต์ประกาศขายผ่านทางเฟซบุ๊กในราคา 650,000 บาท ต่อมานายศุภกฤตเดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุตามนัดหมายก่อนจะลงมือฆ่า 2 ครูสามีภรรยาอย่างเหี้ยมโหด ฝ่ายชายถูกมีดปาดคอจนหวิดขาด ส่วนฝ่ายหญิงถูกมีดแทงกลางศีรษะ ก่อนที่คนร้ายจะขับขี่รถบิ๊กไบค์ดูคาติหนีออกไป กระทั่งถูกชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้เมื่อช่วงกลางดึกในพื้นที่ ต.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ขณะกำลังจะหลบหนีออกไปยังฝั่งประเทศ

Advertisement

เมียนมา โดยมีนายภาณุพงษ์ บัวลอย เพื่อนที่พาหลบหนีถูกจับด้วย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปค้นบ้านและเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหานายภาณุพงษ์ว่า ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ขอไม่เปิดเผยรายละเอียดผลการสอบสวนในเบื้องต้น ระบุเพียงว่าจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในพื้นที่ชายแดนขณะเตรียมจะหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดให้รอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายศุภกฤตไปสอบสวนเบื้องต้นที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ โดยเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปที่สนามบินเชียงใหม่ ขึ้นเครื่องบินมาลงที่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ และส่งมอบคนร้ายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ กก.สส.ภ.จังหวัดระยอง รับตัวไปดำเนินคดีต่อ โดยเจ้าหน้าที่นำตัวนายศุภกฤตขึ้นรถไปสอบปากคำเพิ่มเติมและดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อชิงทรัพย์ ที่ สภ.เมืองระยอง ก่อนทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป ทั้งนี้ นายศุภกฤตมีสีหน้าเคร่งเครียดและปฏิเสธไม่ตอบคำถามสื่อถึงแรงจูงใจการก่อเหตุหรือแม้แต่จะกล่าวขอโทษถึงครอบครัวผู้ตาย

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรอยยิงเข้าที่ศีรษะผู้ตายทั้งสอง คาดว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงก่อนจะใช้อาวุธมีดจ้วงแทงและปาดคอ พร้อมกับเขียนโน้ตตบแต่งขึ้นมาเองทำนองว่าสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันรุนแรงก่อนฆ่ากันเอง ขณะที่เพื่อนบ้านให้การกับตำรวจว่า ได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นในคืนเกิดเหตุจำนวน 3 นัดซ้อน

เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของครูเอ็ม ในพื้นที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พบว่าทางครอบครัวยังอยู่ในสภาพเศร้า โศกเสียใจที่สูญเสียคนในครอบครัวไป  มีการจัดเตรียมงานเพื่อสวดอภิธรรมในคืนแรก หลังไปรับศพกลับมาถึงบ้านตอน 22.00 น. ของคืนวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยจะมี พิธีฌาปนกิจในวันที่ 6 ธันวาคม 2562

นายสมาน สุภานิชย์ อายุ 64 ปี พ่อของครูเอ็ม เผยว่า ทราบข่าวเมื่อเช้าว่าตำรวจจับฆาตกรได้แล้ว รู้สึกดีใจอย่างมากที่ตำรวจทำงานกันอย่างรวดเร็ว รีบมาเคาะโลงศพบอกลูกชายทันทีที่ได้รู้ข่าว ขอให้ศาลลงโทษ ฆาตกรรายนี้ให้ถึงประหารชีวิต ตายตกไปตามกัน ส่วนนางประเชิญ สุภานิชย์ อายุ 62 ปี

แม่ เปิดเผยว่า เอ็มเป็นลูกชายที่ดี ร่าเริงแจ่มใส ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ถ้าเจอตัวคนร้ายอยากจะขอถามว่า ฆ่าลูกทำไม ทำคนไม่มีทางสู้ทำไม ชีวิตคนดีๆ คนหนึ่งทำไมต้องมาตายเพราะคนอย่างนี้ด้วย ขอให้ลงโทษประหารชีวิตเท่านั้น เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต

จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ได้ควบคุมตัวนายศุภกฤต หรือไตเติ้ล ฆาตกรโหดจากกรุงเทพฯมาถึงโรงพัก โดยใช้กำลังตำรวจตั้งแถวล็อกแขนกันไว้เป็นทางยาวจากรถยนต์ถึงทางเข้าโรงพัก เพื่อป้องกันประชาชนที่มารอหน้าโรงพักจำนวนมากเข้ารุมประชาทัณฑ์ เมื่อตำรวจส่งสัญญาณให้พานายศุกกฤตลงจากรถ โดยใช้เสื้อดำคลุมหัวไว้ ระหว่างทางเดิน ได้มีประชาชนตะโกนเสียงสาปแช่งกันจำนวนมาก บางคนพยายามจะเข้าทำร้าย แต่ตำรวจได้กันตัวพาขึ้นชั้นสองเพื่อทำการสอบสวนทันที

เวลา 17.40 น. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และคณะได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว พร้อมกับนำตัวนายศุภกฤตหรือไตเติ้ลที่ถูกกุญแจมือล็อกไขว้หลัง มาร่วมแถลงข่าวด้วย พล.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า ในการสอบสวนเบื้องต้น นายศุภกฤตกระทำไปเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์เป็นรถบิ๊กไบค์ดูคาติ ได้หลอกที่จะมาซื้อที่บ้านผู้ตาย เมื่อผู้ตายได้เซ็นเอกสารโอนรถเรียบร้อยแล้ว จึงลงมือสังหารทั้งสองคน ส่วนประเด็นอื่นทั้งการอำพรางศพ รวมทั้งชิงทรัพย์ จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดและแจ้งข้อหาต่อไป ทาง ผบก.จว.ระยอง จะทำการเพิ่มเข้าสำนวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหากับครูสามีภรรยาที่ตายรู้จักกันมาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า ผู้ต้องหาบอกว่าไม่รู้จักกัน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อต้องสอบกันต่อ ส่วนกรณีที่มีการจัดฉากเหมือนสามีภรรยาทะเลาะกันและฆ่ากันตายนั้น มีการก่อเหตุช่วงแรกและเกิดการชุลมุนของผู้ต้องหากับผู้ตาย จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ แต่ครูเอ็ม สามียังไม่เสียชีวิต ทำให้ผู้ต้องหาใช้มีดเข้าซ้ำจนเสียชีวิต ส่วนหลักฐานรวมทั้งคำให้การของผู้ต้องหาในเวลานี้ ยังเชื่อว่าผู้ต้องหาลงมือทำคนเดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระดาษแปะไว้ที่หน้าบ้านของผู้ตายเพื่อให้เห็นว่ามีการทะเลาะกันของสามีภรรยาใช่หรือไม่ พล.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุก่อนขับรถหนีออกไปตอน 2-3 ทุ่ม ก่อนจะขับรถย้อนกลับมาที่บ้านตอนตีหนึ่งแล้วติดกระดาษดังกล่าวเพื่ออำพรางคดี บ้านของผู้ต้องหากับบ้านผู้ตายห่างกันประมาณ 100 เมตร ย่อมรู้พฤติกรรมของสามีภรรยาที่ชอบทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย เลยมีการอำพรางเกิดขึ้น ก่อนจะลงมือฆ่า โดยนายศุภกฤตหรือนายไตเติ้ลเคยไปบ้าน

ผู้ตายมาครั้งแรกก่อนหน้าเพียง 2 วัน ส่วนที่ ผู้ต้องหาต้องการเงินไปใช้ในการพนันหรือไม่นั้น ตำรวจยังไม่พบประเด็นนี้ กำลังสอบสวนในทุกประเด็น แต่ตัวผู้ต้องหาก็เคยมีคดีฉ้อโกงซื้อขายรถที่ สน.บางเขน

พล.ต.ท.มนตรีกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาใช้จ่ายเงินเยอะ พอช่วงพ่อแม่แยกทางกัน ทำให้ขาดเงิน อาจคิดชั่ววูบขึ้นมา แต่ต้องสอบในรายละเอียดกันต่อไป สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นบีบีกัน เอามาดัดแปลงไม่ใช่อาวุธปืนจริงแต่บรรจุลูกกระสุนจริงยิงได้ เจตนาที่จะยิงเพื่อเอาทรัพย์ ผู้ตายคงขัดขืนเลยลงมือยิง

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายศุภกฤตหรือ นายไตเติ้ลด้วยว่าจะมีอะไรพูดถึงเหตุครั้งนี้หรือไม่ เจ้าตัวไม่ยอมพูดอะไรก่อนที่ตำรวจคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าจาก พล.ต.ต.ฉลอง

สุขจันทร์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนร่วมกันบูรณาการจับกุมตัวผู้ต้องหาชาย 1 ราย ตามหมายจับของศาลในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้ที่บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ จ.ระยอง เบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเป็นชาย 1 ราย โดยตำรวจชุดสืบสวนจะทำการสืบสวนขยายผลตรวจสอบว่ามีบุคคลอื่นมีส่วนร่วมในการกระทำ ผิดอีกหรือไม่ ตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นอื่นในคดีทิ้งไป

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย ทุกภาคส่วน ที่บูรณาการระดมกำลัง ออกสืบสวนติดตามคนร้ายหลังจากเกิดเหตุ จนสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้โดยเร็ว สร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน และกระบวนการยุติธรรมในชั้นต้นให้กับพี่น้องประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image