เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ตลาดดอนโมง ต.บลดอนโมง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นำนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 จ.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นายพงศกร อรรณนพพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ประจำ จ.ขอนแก่น นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย เดินหาเสียง ขอคะแนนสนับสนุนให้ นายธนิก มาสีพิทักษ์ เข้าไปทำหน้าที่ โดยได้รับกำลังใจจากผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ออกมาให้การต้อนรับ ทั้งการสวมกอด การขอถ่ายรูป และการชูนิ้วหมายเลข 1 อย่างพร้อมเพรียง พร้อมส่งเสียงให้กำลังใจ นายธนิก ได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร
คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่า มีโอกาสมาพบพี่น้องชาว อ.หนองเรือ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความผูกพัน และได้ส.ส.จากอำเภอแห่งนี้มาโดยตลอดเราจึงสำนึกถึงบุญคุณของประชาชน จากการรับฟังพบว่าประชาชนต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจปากท้องตลาดเงียบเหงา ซบเซา การมาครั้งนี้จึงมาขอคะแนนให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยเข้าไปทำหน้าที่ และแม้จะเป็นการเลือกตั้งเพียงเขตเดียว แต่สนามการเลือกแห่งนี้ มีความสำคัญกับพี่น้องทั้งประเทศ จึงถูกจับตาและประชาชนก็ฝากความหวังไว้กับชาว มัญจาคีรี และชาวหนองเรือ ซึ่งจะเป็นหนึ่งเสียงที่มีพลังและมีความหมาย จะเป็นหนึ่งเสียงที่ไปทวงสัญญา ซึ่งได้สัญญาสารพัดไว้กับประชาชน จนถึงขณะนี้ก็ยังทำไม่ได้ หนึ่งเสียงของ นายธนิก จะเข้าไปทวงสัญญา ไม่ใช่สัญญาแต่เพียงลมปาก เพราะประชาชนต้องการการลงมือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ถ้าไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดี
หนึ่งเสียงจาก นายธนิก จะเป็นเสียงที่จะไปขับไล่คนไม่มีฝีมือและไม่รักษาสัญญา หนึ่งเสียงจึงมีความสำคัญ เป็นหนึ่งเสียงที่จะเป็นความหวังของคนทั้งประเทศในการกระตุ้นต่อมทำงานของรัฐบาล กระตุกต่อมการทำงานของรัฐบาลให้หันมาดูแลปัญหาความทุกข์ยาก โดยเฉพาะปากท้องของประชาชน
“อยากฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ตรวจสอบการใช้อำนาจเงิน การใช้อำนาจรัฐ ที่เริ่มมีให้เห็นในพื้นที่ โดยเฉพาะการใช้เงินและการเรียกผู้นำชุมชนผู้นำท้องถิ่น ให้สนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคของผู้มีอำนาจ”คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึง การเปิดสภาโหวต กมธ.ม.44 ในวันนี้ว่า ได้รับรายงานว่ามีการพยายามที่จะซื้องูเห่าของพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ครบองค์ประชุม ซึ่งการกระทำแบบนี้มองว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับระบอบประชาธิปไตย โดยสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดมาตลอดว่า เข้ามาเพื่อปฏิรูปและพัฒนา แต่นี่คือการย้อนหลังไปเมื่อปี 2518 ในขณะที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำแบบนี้ และมีการซื้อเสียงแบบชัดเจนในสภาแบบนี้ถือเป็นการทำลายระบบประชาธิปไตย
“คุณใช้เงินซื้อทุกอย่าง ซื้อ ส.ส. ซื้อเสียง ซื้อทุกอย่าง จะบอกว่าไม่โกงไม่มีใครเชื่อ วันนี้ข่าวการพยายามเพาะฟาร์มงูเห่าในสภาตอนนี้อื้ออึงมากทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเปิดสภาได้ แบบนี้เป็นวิถีที่ไม่ใช่ลูกผู้ชาย และเป็นวิธีการที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยที่ดีงาม เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่เลวทรามในการใช้เงินซื้อทุกอย่าง เมื่อเริ่มต้นซื้อทุกอย่าง ก็ต้องเข้าไปโกงกินถึงจะอยู่กันได้”คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
นายธนิก กล่าวว่า ลงพื้นที่ตลาดดอนโมง ใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น จะใช้วิธีการหาเสียงแบบเคาะประตูบ้าน ซึ่งเริ่มจากตลาดดอนโมง ได้พูดคุยทักทายกับประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า โดยกำหนดการของทางพรรคก็มีการเดินเท้าหาเสียงตามหมู่บ้าน จากตลาดดอนโมง ไป ต.จระเข้ และเข้าไปที่บ้านหัวนาก่อนจะไปเปิดปราศรัยที่บ้านหนองหอย ใน ต.จระเข้ อ.หนองเรือ ถึงแม้พื้นที่นี้จะเป็นฐานเสียงหลักของคู่แข่ง แต่การมาลงพื้นที่ไม่ใช่การมาตีฐานเสียงแต่มาขอโอกาสกับประชาชน ที่จะเข้ามากู้เศรษฐกิจของพี่น้อง 1 เสียงที่ให้ ธนิก จะไปทวงถามสัญญาของรัฐบาลที่เคยให้ไว้กับประชาชน และ อ.หนองเรือเป็นอำเภอที่พรรคเพื่อไทย ผูกพันธุ์ และได้คะแนนเสียงจากชาวหนองเรือจนได้จนได้ส.ส. มาโดยตลอด
