เผาแล้ว! เหยื่อถูกฆ่ายกครัว3ศพท่มมกลางบรรยากาศโศกเศร้า ด้านตร.ส่งผู้ต้องหาฝากขังแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่สุสานวัดดงหนองเป็ด ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านของนายอุดม กิมสี อายุ 57 ปีพนักงานเทศบาล ต.บ้านดู่ ฝ่ายจัดเก็บรายได้ กองคลังของเทศบาล ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ซึ่งถูกนายนวราธร คุณะแสงคำ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 2 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตพร้อมกับนางณัชชา กิมสี อายุ 51 ปีภรรยาและ น.ส.เสาวรส กิมสี หรือน้องแป้ง อายุ 29 ปี เสียชีวิตรวม 3 ศพภายในบ้านเลขที่ 307 บ้านดู่ หมู่ 3 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย โดยมีผู้ไปพบศพในวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ร่วมทำพิธีทางศาสนาให้นายอุดมและครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายศพไปทำการเผาตามประเพณีของชาวล้านนาพร้อมกันทั้ง 3 ศพ หลังจากที่ได้รับศพจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และมาบำเพ็ญกุศลในคืนวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมาเพียงคืนเดียว

โดยการฌาปนกิจศพมีนายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เดินทางมาเป็นประธาน มีข้าราชการหลายหน่วยงานโดยเฉพาะในเทศบาลตำบลบ้านดู่ ประชาชน ตลอดจนเพื่อนๆของน.ส.เสาวรส เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าต่างพากันร้องให้ปริ่มจะขาดใจโดยเฉพาะเพื่อนของน.ส.เสาวรส ที่เกาะโลงร้องให้ต่อการจากไปของเพื่อนสาวที่ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

นางดารา เจนยาน อายุ 46 ปี น้องสาวของนางณัชชาหนึ่งในผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตนและญาติๆรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของนางณัชชาและครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะทั้งหมดเป็นดีแต่ถูกคนใจอำมะหิดฆ่า ซึ่งแค่เรื่องหึงหวงชู้สาวก็ไม่น่าจะฆ่ากันทั้งครอบครัวแบบนี้ ซึ่งทางญาติๆไม่ขออโหสิกรรมให้กับทางผู้ก่อเหตุครั้งนี้ และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ลงโทษให้ถึงที่สุด เป็นไปได้ก็อยากให้ประหารชีวิตไปเลย หากเปรียบแล้วหนึ่งชีวิตก็คงไม่เท่ากับ 3ชีวิตที่ต้องสูญเสียไป

ขณะที่นายนวราธร คุณะแสงคำ อายุ 27 ปี ผู้ต้องที่ก่อคดีในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านดู่ได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมและทำการบันทึกการให้การทั้งไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นยังตั้งข้อไว้เพียง 1 ข้อหาคือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และในช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้มีการนำตัวส่งไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงรายเป้นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อดำเนินดคีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป โดยเบื้องต้นทางตำรวจได้คัดค้านไม่ให้มีการประกันตัวเนื่องจากเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีหรืออาจไปก่อเหตุซ้ำอีกได้

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในช่วงเช้าก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพ ได้มีตัวแทนของฝ่ายผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาไหว้ขอขมาศพทั้ง 3 คน แทนผู้ต้องหาที่ยังถูกกักขังอยู่ พร้อมมอบเงินสดจำนวน 10,000 บาท เพื่อช่วยเหลือในการทำพิธีบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image