เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ร.ต.ท.กรกฎ ศรนิกร ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูบางหลวง รับแจ้งจากเจ้าของ ร้านขายของชำ ซอยคูขวาง 7 ตำบลคูขวาง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ว่ามีคนร้ายกระชากทองแล้วหลบหนี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ต.สานิวัฒน์ โทมา สารวัตรสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สืบสวน สภ.คูบางหลวง
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำ 46 หมู่ 2 ตำบลคูขวาง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี มีนางสาวปาณิดา เชื้อไทย อายุ 59 ปี สภาพอยู่ในอาการตกใจ และถือสร้อยคอทองคำ 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง อีก 1 องค์ ตะขอถ่างออกจากกัน ส่วนคนร้ายได้ขับรถกระบะหลบหนีไป และยังพบเอกสารซื้อขายที่นอนตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามผู้เสียหาย และให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามคนร้ายจนได้ตัวขณะหลบหนีไปซ่อนที่แคมป์คนงานภายในวัดย่าน อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และยังพบกับรถกระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผพ 5068 ขอนแก่น ซึ่งมีที่นอนยางพาราเต็มคัน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายธีรวัฒน์ สีอ่อน อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คูบางหลวง
จากการสอบถามนายธีรวัฒน์กล่าวว่า มีอาชีพรับที่นอนยางพารามาขายผ่อนให้กับพนักงานโรงงาน และแคมป์คนงาน ก่อสร้าง และเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ ซึ่งตนเองจะต้องนำเงินไปจ่ายค่าที่นอนยางพาราให้กับร้านที่เอามา จึงไม่มีเงินส่ง จึงคิดชั่ววูบขณะไปซื้อน้ำที่ร้านค้าของชำ เห็นแม่ค้าใส่ทองเส้นใหญ่ จึงตัดสินใจกระชาก ทอง 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง แต่ไม่สามารถนำมาได้เนื่องจากตะขอใหญ่และสร้อยหลุดมือร่วงกับพื้นตนเองจึงรีบหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงติดตามมาจับกุมได้ดังกล่าว
ด้านนางสาวปาณิดา เชื้อไทย เจ้าของร้านขายขอชำกล่าวว่า มีผู้ชายขับกระบะมาขอซื้อน้ำตนก็หยิบน้ำให้ 2 ขวบแล้วผู้ร้ายก็กระชากสร้อยเลย คนร้ายแต่งตัวดี จังหวะกระชากสร้อย สร้อยได้ตกลงพื้นคนร้ายเลยวิ่งหนีขึ้นรถแล้วขับออกไปเลยด้าน ร.ต.ท.กรกฎ ศรนิกร ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูบางหลวง หลังได้รับแจ้งเหตุุได้ลงพื้นที่ติดตามคนร้ายจนจับกุมได้สำเร็จและนำตัวมาดำเนินคดีพร้อมทำแผนสารภาพที่ร้านขายของชำ พร้อมแจ้งข้อหาชิงทรัพย์และจะนำตัวส่งศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไป
