สิ้นบุญแม่เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว หลังจากตกเป็นข่าวทางโซเชียลป้อนข้าวน้ำและเช็ดตัวให้อย่างใกล้ชิด ในขณะที่สังคมชื่นชมว่าเป็นสิ่งที่ดีงามที่ทำเพื่อแม่ ส่วนเจ้าคณะจังหวัดกล่าวว่า ทำทุกอย่างเพื่อแม่ด้วยจิตบริสุทธิ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ยังยึดถือให้เทิดทูนบุพการี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 มกราคม นายชยันต์ ศิริมาตย์ รอง ผวจ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอสุวรรณภูมิ ในฐานะประธานฝ่ายฆราวาสพร้อมส่วนราชการ และพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พร้อมคณะสงฆ์จังหวัดร้อยเอ็ด เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 25 ม.4 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อรวมญาติและชาวบ้าน เพื่อร่วมพิธีรดน้ำและบรรจุศพนางอุทัย มูลสุข อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นมารดาของพระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเสียชีวิต เมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ด้วยโรคมะเร็ง
สำหรับนางอุทัย มูลสุข อายุ 80 ปี มีอาการป่วยด้วยอาการปวดท้อง ส่งเข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.58 และอาการไม่ดีขึ้น หลังจากแพทย์ตรวจอาการพบว่าเป็นมะเร็งตับ ญาติได้ส่งเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่นเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 59 จนถึงวันที่ 14 ม.ค. 59 อาการไม่ดีขึ้นและอาการป่วยเข้าสู่ระยะสุดท้าย จึงนำกลับมารักษาและดูอาการอยู่ที่บ้าน ซึ่งในระยะที่ป่วยระยะสุดท้าย บรรดาลูกทุกคน รวมทั้ง พระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ดได้เฝ้าดูอาการด้วยความผูกพันที่มีมากกว่าคนอื่น เมื่อว่างจากภารกิจนิมนต์ ก็จะกลับมาทำหน้าที่ลูกที่ดี ด้วยการป้อนข้าวป้อนน้ำ และเช็ดตัวแม่ทุกวัน จนกระทั่งแม่เสียชีวิต และมีการเผยแพร่ภาพการเฝ้าดูอาการของแม่ทางโซเชียลฯจนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันต่าง ๆ นานา และส่วนใหญ่ชื่นชมที่พระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ทำหน้าที่ลูกที่ดีในการดูแลแม่จนวาระสุดท้าย
นางประนอม เชิงหอม น้องสาวของเจ้าคณะจังหวัดกล่าวว่า เท่าที่พบเห็นพระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ปรนนิบัติแม่ ด้วยความผูกพัน ดูแลมาแต่ไหนแต่ไร ปฏิบัติแม่มาแต่เล็กแล้ว ใครป้อนอยู่ก็จะขอทำแทน เช็ดหน้าเช็ดตาเช็ดตัว แม่ป่วยระยะสุดท้ายมาสวดมนต์ให้แม่ไม่เจ็บไม่ปวด มาบอกแม่ท่องพุทโธ ตั้งแต่แม่ป่วยและยิ่งป่วยระยะสุดท้าย ยิ่งเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และเมื่อมีเวลาจะกลับมาดูแลแม่ทั้งวันทั้งคืน ดูแลแม่ทุกอย่างเมื่ออยู่ด้วยกัน ชาวบ้านก็รู้กันทั้งหมด และก็ต่างชื่นชม ที่ดูแลแม่ในฐานะลูกที่ดี และก็ไม่มีใครมองว่า เป็นสิ่งเสียหาย แม้จะเป็นพระแต่ก็ทำเพื่อบุพการี โดยไม่คิดว่าตัวเองเป็นพระ
ด้านนางสุดใจ ทองทิพย์ เพื่อนบ้าน กล่าวว่า เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ดได้เช็ดตัวป้อนข้าวแม่ เรียกแม่กินยา ปลุกแม่มากินข้าวกินน้ำกินยาตลอด คาดไม่ถึงว่าจะดีขนาดนี้กับแม่ ทั้งๆ ที่เป็นพระ ซึ่งไม่น่าจะผิดและน่าจะมีการยกเว้นในฐานะลูกทำดีกับแม่ เพราะไม่มีสิ่งใดเกินไปกว่าแม่ ขอโทษแม่ทุกครั้งที่เช็ดตัวให้แม่ ป้อนข้าวแม่
ส่วนพระครูสุตกิจวิมล เจ้าคณะอำเภอสุวรรณภูมิ กล่าวว่า การดูแลแม่ของ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ถือว่าการปฏิบัติของเจ้าคณะจังหวัด ไม่ถือว่าเป็นอาบัติ เพราะพระพุทธเจ้าก็เคยกำหนดว่าดูแลพ่อแม่ได้ การทำ ไม่ได้มีจิตกำหนัด แต่เป็นการทำเพื่อแม่ แม้แต่อรหันต์ ก็ยังดูแลแม่ได้ การทำจึงไม่น่าจะเป็นการกระทำที่อาบัติ ปาราชิก แต่ควรที่จะยกย่องมากกว่า เพราะแม่คือผู้ให้กำเนิด ไม่ใช่สีกาอื่น ที่ลวนลามด้วยกำหนัด ซึ่งจึงจะถือว่าเป็นการอาบัติ ปราชิก ผิดวินัยสงฆ์ ไม่ได้
