เชิดเงินหวย-เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 ธันวาคม นายสมยศ หรือ “ต้นดำ รามรักษ์” อาชีพชาวสวนยางพารา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/4 หมู่ 3 ต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สมพงษ์ ปานเหลือง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ว่าเมื่อเวลา 02.00 น.คืนวันเดียวกัน ตนเองได้พาสาวเสิร์ฟจากร้านคาราโอเกะ ตั้งอยู่เลขที่ 48 ซอยโรงหนังสเตลลาเก่า ถนนตรัง-ปะเหลียน ในเขตเทศบาล ต.ย่านตาขาว จำนวน 2 คน อายุประมาณ 40-45 ปี และอายุ 20-25 ปี โดยที่ไม่ทราบชื่อ-สกุล ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปเช่าห้องพัก 24 ชั่วโมง ห้องหมายเลข 3 ของโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.ย่านตาขาว ก่อนจะสั่งเบียร์จำนวน 2 ขวด มานั่งดื่มกินและพูดคุยกันภายในห้อง รวม 3 คน จนกระทั่งเผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีเวลาประมาณตี 5 พบว่าหญิงสาวทั้ง 2 คนได้หายไปแล้ว เหลือตนเพียงคนเดียว ก่อนตรวจสอบทรัพย์สินในกระเป๋ากางเกงปรากฏว่าเงินสด จำนวน 7,000 บาท ได้สูญหายไป ทำให้เชื่อว่าเป็นฝีมือของหญิงสาว 2 คน เป็นคนร้ายลักขโมยเอาไป จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าถูกวางยาสลบในเบียร์ขโมยเงินในกระเป๋ากางเกงไป 7,000 บาท เว้นเศษไว้ 200 บาท
นายสมยศเล่าว่า เมื่อตนได้รับเงินจากภรรยาแล้วจึงขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปกินเหล้าที่บ้านของเพื่อน ซึ่งเป็นตำรวจ พร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน จำนวน 1 แบน เมื่อเลิกตั้งวงต่างคนจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนตนเองไม่กลับบ้านได้ขับรถมาในตลาดย่านตาขาว แล้วไปเจอกับเพื่อน 2 คน ชื่อนายน้อย และนายนิล ก่อนจะลงหุ้นกันคนละ 500 บาท ไปนั่งดื่มกันที่ร้านคาราโอเกะ ภายในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว ถึงตอนเวลา 23.00 น. ซึ่งมีเด็กเสิร์ฟ จำนวน 4 คน มานั่งร่วมโต๊ะด้วย จนกระทั่งตี 2 ได้ออกจากร้านพร้อมกับเพื่อนไปกินข้าวต้มต่อร้านริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน โดยมีเด็กเสิร์ฟในร้านไปด้วย จำนวน 2 คน ซึ่งเพิ่งมารู้จักกัน ขณะนั่งกินข้าวต้มตนรู้สึกมีอาการเบลอๆ จากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายกัน ส่วนตนเอง สาวทั้งสองพาไปเปิดโรงแรมก่อนตนจะส่งธนบัตรฉบับ 1,000 บาท ให้สาวไปจ่ายค่าห้องและซื้อเบียร์มา จำนวน 2 ขวด หลังจากกินเบียร์ไปหนึ่งแก้วแล้วจำอะไรไม่ได้อีกเลย มาตื่นเอาตอนตี 5 จึงล้วงในกระเป๋ากางเกงปรากฏว่าเงินจำนวน 7,000 บาท หายไปหมดเหลืออยู่เพียง 200 บาท จึงเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้านนางสุวณีย์ รามรักษ์ อายุ 47 ปี ภรรยาผู้เสียหาย ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน พร้อมระบุว่า ตนเองถูกหวยใต้ดินเลข 3 ตัว จำนวนซื้อ 30 บาท ได้รับเงินมา จำนวน 18,000 บาท ก่อนจะไปรับเงินแล้วจึงส่งมอบให้สามี จำนวน 10,000 บาท ก่อนที่สามีจะขับรถออกไปจากบ้าน และมาทราบว่าถูกสาวร้านคาราโอเกะหลอกพาเข้าม่านรูดกวาดเงินไปเกลี้ยงเหลือไว้แค่ 200 บาท
ต่อมา ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งประสานมายังตำรวจกองพิสูจน์หลังฐาน จ.ตรัง เข้ามาเก็บลายนิ้วมือแฝงในห้องพักของโรงแรมดังกล่าว และได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหารข้าวต้มแล้ว สามารถจับภาพของ 2 สาวไว้ได้ ก่อนเข้าไปสอบถามร้านคาราโอเกะที่หญิงสาวทั้งสองทำงานอยู่ แต่ทางเจ้าของร้านไม่ให้ความร่วมมือก่อนจะไล่ตะเพิดเจ้าหน้าที่ออกมา และร้านดังกล่าวได้ทำการปิดชั่วคราว ขณะนี้ทางตำรวจได้ส่งภาพของหญิงสาวทั้งสองให้สถานีตำรวจทุกแห่ง หากพบเจอให้ควบคุมตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
