เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายสานิตย์ สมณะ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหัวนา อ.เมือง ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของ นายสาคร คีรีวงษ์ อายุ 47 ปี กับ นางวันดี คีรีวงษ์ อายุ 47 ปี ซึ่งอยู่ด้วยกันกับลูกสาว ที่บ้านเลขที่ 399 หมู่ 1 ต.หัวนา อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เป็นเส้นทางหัวนา-บ้านโนนสวรรค์ อยู่ห่างจากหมู่บ้านหัวนา 500 เมตร ถูกคนร้ายมาขโมยข้าวเปลือกไป เมื่อวานขณะเจ้าของออกไปตัดอ้อย เมื่อกลับเข้ามาบ้านพบว่า บริเวณประตูบ้านถูกงัดจนบริเวณประตูช่วงติดลูกบิดมีรอยแตก และเมื่อเจ้าของบ้านได้ทำการสำรวจภายในบ้าน พบว่า กระสอบข้าวเปลือกที่เก็บไว้ภายในบ้าน จำนวน 34 กระสอบ หายไป 4 กระสอบและกระปุกออมสินของลูกสาว จึงได้เข้าแจ้งผู้ใหญ่บ้านหัวนาไว้เป็นหลักฐาน
โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู ได้ร่วมออกติดตามหาเบาะแสว่า คนร้าย โดย ได้ไปสอบถามร้านรับซื้อข้าวในหมู่บ้าน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า มีคนนำข้าวมาขายให้ 4 กระสอบปุ๋ย และยังพบกระสอบเก่าที่บรรจุข้าวอยู่ในร้าน โดยเจ้าของร้านบอกว่าจำหน้าคนร้ายได้ดี แต่กล้องวงจรปิดของร้านเสีย และไม่ใช่คนในพื้นที่ จากนั้นจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในเทศบาลตำบลหัวนา และพบว่า มีกล้องวงจรปิดช่วงบริเวณด้านหน้าเทศบาลตำบลหัวนา ได้จับภาพคนร้ายได้ บริเวณศาลาริมถนนข้างเทศบาลตำบลหัวนา พบว่า คนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง สีดำคาดขาว คนร้ายใส่เสื้อลายพรางทหาร ใส่หมวกไหมพรหม กางขายาว นำกระสอบข้าววางนอนด้านหน้า สองกระสอบ ตั้งอีกหนึ่งกระสอบ และวางข้างหลังหนึ่งกระสอบ ขณะขับขี่ผ่านมา กระสอบดันรถทำให้เลี้ยวไม่ได้ จะล้มจึงทำให้กระสอบตกลง คนร้ายพยายามนำกระสอบขึ้นใส่รถจักรยายนต์ของตัวเอง แต่กระสอบหล่น จึงทิ้งไว้ก่อนและนำข้าว 3 กระสอบไปยังร้านค้าและกลับมาเอากระสอบที่เหลืออีกครั้งหนึ่งไปขาย ให้กับทางร้าน นายกเทศมนตรีตำบลหัวนา จึงให้เจ้าหน้าที่นำรถพาผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมกับภาพวงจรปิด มอบให้กับ พ.ต.ท.กิตติพล สมสิทธิ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู และหลังจากได้รับแจ้งแล้วจึงได้เดินทางออกไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ
นายสาคร คีรีวงษ์ ชาวนา จ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ปีนี้ทำนาได้ข้าวเพียง 34 กระสอบปุ๋ย จากปีที่แล้วได้ 60 กว่ากระสอบ เนื่องจากประสบกับภาวะปัญหาภัยแล้ง จึงไม่ได้ขายข้าว นำข้าวทั้งหมดมาเก็บไว้กิน ในครอบครัว ซึ่งได้เก็บไว้ภายในบ้าน และในวันเกิดเหตุไปตัดอ้อยกับภรรยาในตอนเช้า กลับมาถึงบ้านเห็นประตูมีผ้ายัดอยู่ไม่ให้ประตูเปิดออก เมื่อเปิดเข้าไปก็พบว่ามีข้าวหายไป 4 กระสอบ พร้อมกระปุกออมสินของลูกสาว และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ เพราะหากจับไม่ได้ก็อาจจะไป ก่อเหตุขโมยของคนอื่นอยู่เช่นนี้อีก แม้ว่าข้าวที่ขโมยไม่มากแต่ถ้าในครอบครัวก็สามารถกินกันในครอบครัวได้ถึง 2 เดือน คิดมูลค่าความเสียหายประมาณ 2,000 บาท และบ้านของตัวเองก็เคยถูกขโมยงัดบ้านมาแล้ว ครั้งนั้นอุปกรณ์งานช่างต่างๆ กบไสไม้ สว่านไฟฟ้า ทอง และอีกหลายอย่าง ครั้งนั้นประมาณ 40,000 บาท จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามหาคนขโมยให้ได้ เพราะเป็นความทุกข์ของชาวนา
นายสานิตย์ สัมณะ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหัวนา กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจชาวบ้านที่ปีนี้ ที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาภัยแล้งอยู่แล้ว ยังต้องมาประสบกับปัญหาโจรขโมยข้าวอีก ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่เกิดขึ้นภายในชุมชน สองครั้งแรกเจ้าทุกข์ไม่ติดใจไปแจ้งความดำเนินคดี คิดว่าคนร้ายอาจจะเกิดความยามใจจึงได้มาตระเวนขโมยอีก และก็ขโมยครั้งละไม่มาก ครั้งแรก 3 กระสอบ ครั้งที่สอง 6 กระสอบ ครั้งที่สองคนร้ายนำเอารถเข็นของเจ้าของบ้านใส่ข้าวไปขายด้วย จึงได้หลายกระสอบ โดยได้นำไปขายที่ร้านค้าในหมู่บ้าน และครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม และยังมีภาพวงจรปิดของคนร้าน จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้
