เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม เนื่องจากระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ ลดระดับลงมากทำให้น้ำในคลองซอยต่างๆ แห้งลง ส่งผลให้คลอง 12 มีพื้นถนนสาย ปท.3025 ทรุดตัวถึง 4 แห่ง เบื้องต้นแขวงทางหลวงชนบทปทุมธานีได้ติดตั้งป้ายเตือน ธงราว แบริเออร์พลาสติกสีส้ม และไฟส่องสว่าง เพื่อให้การใช้ทางเกิดความปลอดภัย
โดยจุดที่ถนนทรุดทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ 1.ถนนสาย ปท.3025 กม.ที่ 0+142 ฝั่งตะวันออก ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี สภาพผิวถนนเป็นพื้นปูนคอนกรีตได้ชำรุดมีรอยแตกร้าวและทรุดตัวมีความยาว 75 เมตร ความลึก 1 เมตร 50 เซนติเมตร 2.ถนนสาย ปท.3025 กม.ที่ 13+100 ฝั่งตะวันออก ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี สภาพผิวถนนเป็นพื้นลาดยางแอสฟัลต์ ได้ชำรุดและทรุดตัว เป็นระยะทาง 50 เมตร มีความลึก 1 เมตร 50 เซนติเมตร 3.ถนนสาย ปท.3025 กม.ที่ 13+350 ฝั่งตะวันตก ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี สภาพผิวถนนเป็นพื้นลาดยางแอสฟัลต์ ชำรุดและทรุดตัว เป็นระยะทาง 95 เมตร มีความลึก 2 เมตร 4.ถนนสาย ปท.3025 กม.ที่ 14+200 ฝั่งตะวันออก ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี สภาพผิวถนนเป็นพื้นลาดยางแอสฟัลต์ ได้ชำรุดมีรอยแตกร้าวเป็นระยะทาง 50 เมตร มีความลึก 60 เซนติเมตร
จากการสอบถาม น.ส.น้อยหน่า ขันธวิชัย อายุ 38 ปี เจ้าของร้านอาหารตามสั่งใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ถนนเลียบคลอง 12 ฝั่งตะวันตก กิโลเมตรที่ 13+350 ได้มีรอยแตกร้าวตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562 แต่ขณะนั้นยังไม่เยอะเท่านี้ เมื่อเวลาผ่านไปผิวถนนเริ่มทรุดตัวลงมากขึ้นจนเสียช่องทางจราจรไป 1 ช่องทาง มีเจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทเข้ามาดูและตรวจสอบ ได้เอาแท่งแบริเออร์มากั้นไว้เพื่อป้องกันรถที่อาจจะตกลงไป เนื่องจากผิวถนนทรุดทำให้ท่อสูบน้ำเพื่อการเกษตรเสียหาย ตนมีสวนกล้วย 20 ไร่ ปลูกกล้าไว้ 3,000 ต้น ขณะนี้ยังต้องการน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร เนื่องจากภัยแล้งการสูบน้ำก็ยากอยู่แล้ว ยังได้รับผลกระทบจากถนนทรุดอีกจึงอยากให้เร่งแก้ไขจะได้ตั้งท่อสูบน้ำเข้าสวนกล้วยได้
