นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ดูท่องเที่ยวเกาะสมุย เผยภายใน 1 เดือนออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว เน้นจุดขาย “ทรัพยากรสวยงาม น้ำใจคนไทย” ชี้หลังค่าเงินบาทที่แข็งตัว 3 บาท กระทบการใช้จ่ายนทท. ส่งผลรายได้เอกชนลดลงเกือบร้อยละ 10
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ ลงพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ดูสถานการณ์การท่องเที่ยวเกาะสมุยและร่วมประชุมรับฟังข้อมูลในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุย โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมส่วนราชการ และตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร่วมนำเสนอ
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ทำความดีในพื้นที่เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายสาโรช ช่วยเกิด พลเมืองดีที่ได้ช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวให้รอดจากการจมน้ำที่หาดเฉวง นางปราณีต เสนาท พลเมืองดีที่เก็บเงินสด 100,000 บาทส่งคืนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นายอภิวัฒน์ จงรักษ์ พลเมืองดีที่นำกระเป๋าเงินสดและเอกสารที่ลืมไว้ในรถนำส่งคืนนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส และนายธีรวัฒน์ แก้วนพคุณ พนักงานขับรถตู้โดยสารที่นำกระเป๋าเงินส่งคืนนักท่องเที่ยวชาวเนเธอร์แลนด์
นายวิชวุทย์ ผวจ.สุราษฎณ์ธานี กล่าวว่า ในปีพ.ศ.2561 มีผู้เดินทางเข้ามาในจ.สุราษฎร์ธานี 6,154,544 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 4.48สร้างรายได้ 102,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.15 โดยเฉพาะเกาะสมุย เดินทางเข้ามา 2,651,500 คน คิดเป็นร้อยละ 43 ของจำนวนนักท่องเที่ยวในจังหวัด ทำรายได้ 64,726.98 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 63 รายได้การท่องเที่ยวรวมของจังหวัด เป็นชาวต่างประเทศร้อยละ 60 ชาวไทยร้อยละ 40 ในปีพ.ศ.2560 ที่ผ่านมาทั้งภาครัฐ เอกชน สมาคมการท่องเที่ยวในจังหวัดช่วยกันพัฒนาและส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ส่งผลให้จ.สุราษฎร์ธานีมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอันดับ 6 ของประเทศ และเป็นอันดับ 3 ของภาคใต้ รองจากภูเก็ต และกระบี่
นายวิรัช พงษ์ฉบับนภา ตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยว กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุย อยากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพัฒนาเรื่องตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เป็นอยู่ เช่น บอกว่าเพิ่มร้อยละ 10 แต่สายการบินบอกลดร้อยละ70 และขอเสนอให้ตั้งธนาคารเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาท่องเที่ยวโดยตรง
นายวรสิทธ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า ในแต่ละปีมีเรือสำราญจากต่างประเทศเดินทางมาเยือนเกาะสมุย ร่วม 100 เที่ยว แต่เกาะสมุยยังไม่มีท่าเทียบเรือน้ำลึกเพื่อรองรับเรือสำราญ และนักท่องเที่ยวยังขาดความสะดวกในการเดินทางจากเรือสำราญเข้ามายังตัวเกาะ ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง จึงขอให้ทางรัฐมนตรีช่วยผลักดันโครงการสร้างท่าเทียบเรือสำราญที่มีการศึกษาไว้แล้ว จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าได้มากกว่าเดิม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปัญหาและแนวทางการพัฒนาท่องเที่ยวเกาะสมุยประเด็นสำคัญที่มีการพูดถึงมาก คือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ภาคเอกชนมองว่าลดลงไม่สอดคล้องกับตัวเลขของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันว่าตัวเลขของ ททท.มีการเก็บร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่หลังจากนี้ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมว่านักท่องเที่ยวเมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้วไปกระจุกตัวอยู่ที่ไหน ขณะที่เรื่องการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่ลดลงและรายได้ของภาคเอกชนที่ลดลง ซึ่งมีผลมาจากค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นประมาณ 3 บาทหรือเกือบร้อยละ 10 เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นายกรัฐมนตรีได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะออกมาตรการเพื่อแก้ไข
“แต่เรื่องการท่องเที่ยวมองว่าจุดแข็งของประเทศไทยไม่ได้อยู่ที่เรื่องของค่าเงิน แต่อยู่ที่ความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทรัพยากรธรรมชาติ อาหาร การให้บริการ และน้ำใจของคนไทยซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวต่างประทับใจ จึงอยากให้ภาคเอกชนช่วยกันยกระดับเรื่องนี้มากกว่า ขณะที่มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจได้มีการหารือและเตรียมมาตรการไว้แล้วยังเปิดเผยรายละเอียดตอนนี้ไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะมีออกมาอย่างแน่นอนไม่เกิน 1 เดือนจากนี้” นายพิพัฒน์ กล่าว
