เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ธันวาคม ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เรียกประชุมคณะทำงานประเมินสถานการณ์วาตภัยเนื่องจากคลื่นกัดเซาะชายฝั่งจังหวัดสงขลา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ 6 หมู่บ้านของตำบลท่าบอน อำเภอระโนด คลื่นได้กัดเซาะชายฝั่งบริเวณหมู่ 2, 3, 4, 5, 9 และ 10 ทําให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 5 หลัง ถนนเสียหาย 3 สาย ประชาชนกว่า 500 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน
นายเชาวลิต นิฒรรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ล่าสุด นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ลงนามในประกาศจังหวัดสงขลา เรื่องเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอระโนด และเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย อันเนื่องมาจากเกิดสถานการณ์วาตภัยปานกลาง (คลื่นกัดเซาะชายฝั่ง) ทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินสถานที่ราชการ และสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหาย บริเวณหมู่ 2, 3, 4, 5, 9 และ 10 ตำบลท่าบอน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ซึ่งจะสามารถนำงบประมาณเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถนำเงินงบประมาณมาทดรองใช้ 20 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในพื้นที่ตำบลท่าบอนมีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นหลากหลายรูปแบบในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ระยะทาง 12 กิโลเมตร โดยจุดที่กระทบรุนแรงในปีนี้คือในพื้นที่หมู่ 10 ซึ่งเป็นจุดที่ยังไม่มีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น และในบางจุดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นของกรมเจ้าท่า วงเงิน 135 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า ความสูงของกำแพงกันคลื่นนั้นเสมอแนวทราย ทำให้คลื่นข้ามมาได้ และในบางจุดกำแพงกันคลื่นมีช่องโหว่ ทำให้เกิดการกัดเซาะรุนแรง ทำให้ประเมินว่า กำแพงกันคลื่นดังกล่าวไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์
นายอำพลกล่าวว่า จังหวัดสงขลาได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยเฉพาะหน้านั้น ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ให้ความช่วยเหลือในเรื่องความเสียหายเบื้องต้น เช่น กระเบื้องมุงหลังคาตามความเสียหายจริง จำนวน 4 หลัง เป็นเงินประมาณ 4 พันบาทเศษ ส่วนบ้านหลังที่เสียหายหลังที่ 5 นั้น มีความเสียหายมาที่สุดประมาณ 3 หมื่นบาท ซึ่งท้องถิ่นยังช่วยเหลือได้ นอกจากนั้น นายอำเภอระโนดก็สามารถใช้เงินช่วยเหลือทดรองราชการ 2 แสนบาท ซึ่งก็ขอให้เร่งทำการช่วยเหลือ ส่วนในระยะยาว เรื่องการของการซ่อมแซมถนนนั้น มีความเสียหาย 6,322 เมตร กว้าง 4 เมตร บางจุดมีความลึกถึง 2 เมตร แต่หากทำการซ่อมแซมในช่วงนี้ก็อาจทำให้ถูกคลื่นซัดถล่มเสียหายอีกครั้ง เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูมรสุม ซึ่งอยู่ระหว่างหาแนวทางในการดำเนินการ เนื่องจากทาง อบต.ท่าบอน รวมถึง อบจ.สงขลา ต่างมีแผนที่จะทำให้เขื่อนกันคลื่นในพื้นที่ที่เกิดปัญหาอยู่แล้ว
ด้าน น.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในช่วงวันนี้-14 ธันวาคมนี้ คลื่นลมจะเบาบางลง แต่ระหว่างวันที่ 14-16 ธันวาคม จะมีปัจจัยที่ทำให้คลื่นลมแรงขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะไม่รุนแรงเท่าครั้งที่ผ่านมา
