‘บึงกาฬ’ จัด ‘มอเตอร์ไบค์แรลลี่ทัวร์’ ขี่บิ๊กไบค์เที่ยวชมเมือง เสริมกิจกรรมงานยางพารา

‘บึงกาฬ’ จัด ‘มอเตอร์ไบค์แรลลี่ทัวร์’ ขี่บิ๊กไบค์เที่ยวชมเมือง เสริมกิจกรรมงานยางพารา

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บึงกาฬ ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดบึงกาฬ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ ภายในการจัดงานวันยางพาราจังหวัดบึงกาฬ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ ภายใต้ชื่อ “บึงกาฬมอเตอร์ไบค์ แรลลี่ ทัวร์ (Buengkan Motorbikes Rally Tour)” ประจําปี 2562 ครั้งที่ 2 เพื่อให้นักขับขี่มอเตอร์ไซค์ (ไบค์เกอร์) ภาคอีสาน ทั้งจังหวัดสกลนคร นครพนม หนองคาย บึงกาฬ มาขับรถ 2 ล้อชมเมืองกระตุ้นการท่องเที่ยว ตามโครงการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการขับขี่มอเตอร์ไซค์ โดยได้รับความสนใจจากกลุ่มบิ๊กไบค์เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยมีปล่อยตัวที่บริเวณลานด้านหน้าโรงแรมเดอะวัน อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

นายสมภพ สุนันทนาม รองนายก อบจ.บึงกาฬ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬให้เป็นที่รู้จัก ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ เนื่องจากจังหวัดบึงกาฬมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น หินสามวาฬ บนภูสิงห์ น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกเจ็ดสี ทะเลบัวแดง@หนองเลิง เป็นต้น ซึ่งการจัดกิจกรรม “บึงกาฬมอเตอร์ไบค์แรลลี่ทัวร์” ในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีที่จัดขึ้น ซึ่งครั้งแรกได้รับความสนใจจากนักขับขี่ (ไบค์เกอร์) เป็นจำนวนมาก และเกิดกระแสเรียกร้องให้จัดขึ้นอีกครั้งภายในงานวันยางพาราจังหวัดบึงกาฬ ปี 2563 นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงานวันยางพาราได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ตัวเองชื่นชอบ ออกไปเที่ยวชมสัมผัสกับความงดงามทางธรรมชาติ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดบึงกาฬ ทั้ง 8 อำเภอ เช่น วัดอาฮงศิราวาส (จุดชมวิวสะดือแม่น้ำโขง) อ.เมืองบึงกาฬ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต อ.โซ่พิสัย หาดคำสมบูรณ์ อ.บึงโขงหลง ภูทอก อ.ศรีวิไล ภูสิงห์ และวัดโพธาราม(หลวงพ่อพระใหญ่) อ.เมืองบึงกาฬ เป็นต้น รวมระยะทางกว่า 330 กิโลเมตร ท่ามกลางอากาศที่กำลังเย็นสบาย อุณหภูมิ 25 องศา ภายใต้กฎความปลอดภัยและระเบียบของงานอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีรถจักรยานยนต์ทั้งขนาด 1,000 ซีซี 650 ซีซี 350 ซีซี และ 150 ซีซี เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 คัน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถส่งเสริมการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวและรายได้จากเมืองท่องเที่ยวหลัก ลงสู่เมืองท่องเที่ยวรอง ตามนโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาลได้อย่างแน่นอน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image