สืบเนื่องเหตุฆาตกรรมโหด น.ส.ปิญชาน์ ขอบเขตต์ อายุ 44 ปี ชาวบ้านโคกเพ็ก ต.โนนเพ็ก อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ถูกฆ่าทุบหัวอย่างโหดเหี้ยมที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ล่าสุด พ่อแม่ได้นำศพกลับมาถึงบ้านที่ จ.ศรีสะเกษแล้ว ขณะที่ฆาตกรโหดซึ่งเป็นสามีของผู้ตายได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 มกราคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนางปิญชาน์ ผู้ตาย พบว่าญาติๆ นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลเรียบร้อยแล้ว โดยนำศพมาถึงบ้านเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (31 ธ.ค.62) และได้มีการสวดพระอภิธรรมศพไปแล้ว 1 คืน ซึ่งญาติพี่น้องได้จัดเตรียมอาหารเพื่อถวายพระและเพื่อต้อนรับแขกที่จะมาร่วมงาน
นางสำราญ อินทา อายุ 53 ปี ชาว ต.โนนเพ็ก อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของผู้ตาย กล่าวว่า ตนรักผู้ตายเหมือนกับลูกสาวแท้ๆ เพราะติ๊ก ผู้ตาย ให้การดูแล ทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัวเพียงลำพังผู้เดียว เนื่องจากพ่อแม่มีอายุมากแล้ว หากฆาตกรจะมาขอขมาศพนั้น ตนและครอบครัวก็ไม่ขัดข้อง ขณะนี้ตนเสียใจมาก เพราะคาดไม่ถึงว่าสามีของผู้ตายจะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมทารุณ ฆ่าได้แม้กระทั่งภรรยาของตัวเอง
ย้อนอ่าน : ฆ่าทุบหัวสาวศรีสะเกษ ญาติสงสัยสามีใหม่ พบโมโหร้าย เมาสุรา ตั้งแต่เกิดเหตุยังติดต่อไม่ได้
นายประถม ขอบเขตต์ อายุ 55 ปี ชาว ต.โนนเพ็ก อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ อาของผู้ตาย กล่าวว่า สามีของผู้ตายอยู่กินกันมานานประมาณ 4 ปี เป็นคนที่มีท่าทางน่าเชื่อถือ และได้หลอกให้ผู้ตายขายที่นา จำนวน 5 ไร่ ได้เงินจำนวน 500,000 บาท นำเอาไปซื้อรถกระบะ 1 คัน จากนั้นนำเอารถไปใช้ในการรับเหมาก่อสร้าง ทำให้ทรัพย์สินของผู้ตายหมดไป ส่วนการที่คนร้ายอ้างสาเหตุที่ได้ฆ่าผู้ตายกับพนักงานสอบสวนนั้น ตนไม่เชื่อ น่าจะมีสาเหตุอื่นมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าสามีภรรยากันไม่ควรที่จะทำรุนแรงมากขนาดนี้ หากไม่พอใจกัน ไม่อยากอยู่ด้วยกัน ควรที่จะนำหลานของตนมาส่งที่บ้าน ไม่ควรถึงกับฆ่าแกงกัน ส่วนหากจะมาขอขมาศพนั้น ตนและญาติพี่น้องคงไม่สามารถที่จะอโหสิกรรมให้ได้ เพราะว่าทำกับหลานของตนมากเกินไป เหมือนกับว่าหลานสาวของตนไม่ใช่คน ซึ่งตนและครอบครัว ญาติพี่น้อง จะประกอบพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 3 ม.ค.63 ที่วัดบ้านโคกเพ็ก ต.โนนเพ็ก อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ
