หนุ่มสุดช้ำ ถือกุญแจ จยย.ข้ามอำเภอ ตามหาอดีตแฟน หลังถูกหลอกดาวน์รถก่อนเชิดหนี

จากกรณีนายทศพล สาไชยยันต์ อายุ 40 ปี ชาวอำเภอดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.กิตติพัฒน์ เฉิดเกียรติ สว.(สอบสวน) สภ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ชาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อดีตแฟนสาว หลังจากพบรักกันทางเฟซบุ๊กและคบหาดูใจกันมานานกว่า 2 เดือน ก่อนที่ น.ส.เอจะหลอกให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน 1กณ 5739 กาฬสินธุ์ มูลค่า 62,160 บาท แล้วขี่หลบหนีไป นายทศพลพยายามตามหาที่บ้านหลายครั้งแต่ก็ไม่พบตัว พร้อมกับขอทางตำรวจเร่งติดตามรถจักรยานยนต์กลับคืนมา เบื้องต้นทางตำรวจยังไม่รับแจ้งความเป็นคดี เพราะนายทศพลจะต้องไปติดตามเองแบบซึ่งหน้า 3 ครั้งก่อน แต่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มกราคม นายทศพลได้เดินทางไปตามหาตัวและรถจักรยานยนต์กับ น.ส.เอ หลังทราบว่ามีบ้านอยู่ใน ต.โคกสี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ แต่ก็ไม่พบตัว และไม่มีใครอยู่บ้าน โดยประตูหน้าบ้านปิดล็อกกุญแจไว้ ทั้งนี้ ได้พยายามติดต่อกับแม่ของ น.ส.เอ ทางโทรศัพท์ แต่กลับอ้างว่าไปทำธุระต่างพื้นที่ จึงไม่พบใครอยู่บ้าน ก่อนจะนำลูกกุญแจ พร้อมป้ายทะเบียน และเอกสารสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ยางตลาด เพื่อขอให้ออกหมายเรียก น.ส.เอ มายุติปัญหา โดย ร.ต.อ.ชนาธิป ศรีสมบูรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด เป็นผู้รับเรื่องและให้คำปรึกษา

นายทศพลกล่าวว่า ตั้งแต่ น.ส.เอ ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไป ตนไม่สามารถติดต่อได้เลย เพราะโทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย ขณะที่เฟซบุ๊กและไลน์ก็ถูกบล็อก จึงได้โทรติดต่อกับมารดา น.ส.เอ โดยตรง เพื่อถามถึงรถจักรยานยนต์ว่ายังอยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยทางโทรศัพท์กับมารดา น.ส.เอ อ้างว่าลูกสาวนั้นไม่อยู่บ้าน และได้ให้ตนเลี้ยงหลาน ซึ่งเป็นลูกของ น.ส.เอ ล่าสุดทราบว่าไปทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ซึ่งนานๆ ทีจะได้ติดต่อกลับมา

นายทศพลกล่าวเพิ่มเติมว่า มารดา น.ส.เอ ยอมรับว่าได้ทราบเรื่องที่ลูกสาวมาก่อเหตุกับตน เพราะที่ผ่านมาก็ได้พูดคุยกันอยู่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทราบว่าลูกสาวได้ไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง โดยมีการคบหาผู้ชายเป็นแฟนแล้วก็ให้ซื้อของให้ ก่อนจะหนีไป ซึ่งแม่ของ น.ส.เอ เคยห้ามไปแล้วว่าอย่าทำ สงสารคนอื่น แต่ น.ส.เอก็ยังไม่เชื่อฟัง จนกระทั่งมาหลอกตนอีก ทั้งนี้ จากกรณีที่นำจักรยานยนต์คันดังกล่าวขี่หนีไป มารดา น.ส.เอ บอกว่าจะรับผิดชอบเอง โดยขอชำระค่างวดให้ ซึ่งตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ

Advertisement

“เรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว ตนอยากเป็นอุทาหรณ์เตือนภัย ซึ่งการที่จะรัก จะชอบใครสักคน หรือการที่จะเลือกใครมาเป็นคู่ชีวิต ต้องดูให้ดี โดยเฉพาะการรู้จักกันทางโลกโซเชียลนั้นจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน ดูใจกันนานๆ จะได้ไม่ต้องเสียใจและเสียเงินภายหลัง ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก และไม่อยากให้มีผู้ที่ถูกหญิงคนนี้หลอกอีก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ และออกติดตามตัว พร้อมกับรถจักรยานยนต์มาคืน เนื่องจากการเช่าซื้อนั้นเป็นชื่อของตน และมีพี่ชายเป็นคนค้ำประกัน ซึ่งหากไม่ได้รถคืนตนก็จะต้องผ่อนงวดกุญแจรถที่มูลค่ากว่า 62,160 บาท ดังนั้น จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวและรถจักรยานยนต์ให้ด้วย เพื่อที่จะไม่ได้ไปก่อเหตุกับใครอีก” นายทศพลกล่าว

ร.ต.อ.ชนาธิปกล่าวว่า หลังได้รับทราบเรื่องที่นายทศพลมาแจ้งความ เบื้องต้นได้วิเคราะห์มูลเหตุของปัญหา พร้อมให้คำปรึกษา จากนั้นได้แนะนำให้นายทศพลไปขอหนังสือมอบอำนาจจากร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เพื่อประกอบหลักฐานแจ้งความ ทั้งนี้ หากสืบทราบในภายหลังว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวยังไม่สูญหาย อาจจะเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ หรือหาก น.ส.เอ เอาไปขายต่อหรือทำให้เป็นอย่างอื่นก็อาจจะเข้าข่ายลักทรัพย์ โดยให้กลับไปแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.เอ ที่ สภ.ดอนจาน ซึ่งถือเป็นสถานที่เกิดเหตุ ที่ได้ขี่รถจักรยานยนต์หนีไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image