จากเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดไฟไหม้บ้าน 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จนเป็นเหตุให้นางสาวสาลี่ ศรีโหร อายุ 79 ปี หญิงชราเจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่เพียงลำพังและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เสียชีวิตในกองเพลิง สภาพศพไหม้เกรียมทั้งตัว โดยศพกองอยู่ที่พื้นชั้นล่างเพราะตกลงมาจากชั้นบนนั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 ณ.ของวันเดียวกัน พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ บุญยะกาญจน์ ผู้กำกับการ กองพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจพื้นที่เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของหญิงชรารายนี้ ซึ่งจากการตรวจอย่างละเอียดทั้งชั้นบนและชั้นล่างของบ้านแล้ว คาดว่าต้นเพลิงน่าจะเกิดจากบริเวณหน้าห้องนอนของผู้เสียชีวิต เพราะดูจากคานไม้ที่ไหม้เกรียมและหักกร่อนมากที่สุด ประกอบกับบริเวณดังกล่าวยังมีไฟฟ้าหลอดตะเกียบที่เปิดไว้ตลอดทั้งคืนเพื่อให้แสงสว่างแก่ผู้เสียชีวิต จึงเชื่อได้ว่าเป็นจุดต้นเพลิงไหม้บ้าน ส่วนสาเหตุนั้นเบื้องต้นคาดว่า น่าจะมาจากขั้วหลอดไฟดวงที่เปิดไว้ตลอดทั้งคืนนั้นเกิดการชำรุดมาเป็นเวลานาน ทำให้ขั้วหลวมแล้วมีความร้อนเกิดขึ้นจนหลอมละลายสายไฟ ก่อนจะเกิดเป็นเปลวไฟไปเผาไหม้คานไม้ข้างบน จนกลายเป็นเพลิงลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากวัสดุจะเป็นไม้เก่าที่ซื้อมาจากร้านค้าย่านบางแพ จังหวัดราชบุรีแล้ว เมื่อเกิดเหตุผู้เสียชีวิตยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองหรือร้องบอกให้ใครมาช่วยได้ จึงทำให้เพลิงลุกไหม้หมดทั้งหลังรวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านนี้ด้วย ซึ่งก็คือคุณยายสาลี่นั่นเอง ส่วนเรื่องของไฟฟ้าช๊อตนั้น ไม่น่าจะมาจากไฟฟ้าช๊อตเพราะถ้าเป็นไฟฟ้าช๊อตระบบตัดไฟอัตโนมัติจะต้องทำงานทันที แต่ถ้าเกิดจากเหตุข้างต้นนั้น ระบบตัดไฟอัตโนมัติจะไม่ทำงานเลย
ขณะที่ในส่วนของศพคุณยายสาลี่ ศรีโหร หญิงชราวัย 79 ปี ที่เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าสลดถูกย่างสดในกองเพลิงนั้น ทางญาติได้ไปรับจากสถาบันนิติเวช แล้วนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดปัจจันตาราม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
